อีกหนึ่งสิ่งที่ต้องขอชื่นชมการทำงานของส.บอล คือการที่ผลักดันให้ ฟีฟ่า เปิดไฟเขียวเปิดตลาดซื้อขายนักเตะในไทยลีก 1-4 เพิ่มอีก 2 รอบ คือระหว่างวันที่ 25 สิงหาคม ถึง 7 กันยายนนี้ และ 28 ธันวาคม ปี 2563 ถึง 10 มกราคม ปี 2564
นั่นหมายความว่า ไทยลีกซีซั่นนี้จะมีการย้ายทีมกันถึง 3 รอบเลยทีเดียว แถมยังเป็นชาติแรกในโลกใบนี้ ที่ได้รับสิทธิ์การขยายช่วงเวลาซื้อขายเพิ่มอีก 2 รอบด้วยเช่นกัน
ทั้งหมดนี้ ก็เพื่อให้สโมสรสมาชิกในไทยลีก 1-4 ได้มีโอกาสปรับจูนทีม และซื้อขายนักเตะให้ลงตัวที่สุด หลังจากที่โดนไวรัสโควิด-19 เล่นงานจนอ่วมอรทัยกันเป็นแถบๆ
นอกจากนี้ในส่วนของทีมชาติเอง ที่โปรแกรมฟีฟ่าเดย์ตั้งแต่เดือนมีนาคมถูกยกเลิก ก็ดูเหมือนว่าจะยังไม่มีกำหนดกลับมาฟาดแข้งกันง่าย ๆ แน่ มิหนำซ้ำก็อาจจะต้องรอไปจนถึงรอบสุดท้ายของปี 2020 คือในเดือนพฤศจิกายน ถึงจะกลับมาแข่งขันกันใหม่
ทำให้ในช่วงนี้ อากิระ นิชิโนะ กุนซือใหญ่ทีมชาติ ต้องขอลากลับบ้านที่ญี่ปุ่นชั่วคราว เพื่อใช้เวลาอยู่กับครอบครัว เพราะนับตั้งแต่มีการระบาดใหญ่ทั่วโลก เฮดโค้ชช้างศึกก็ยังไม่ได้พบลูกกับภรรยาเลย
แต่ถึงอย่างไร อ.โนะ ก็ไม่ลืมที่จะย้ำเตือนลูกทีม ให้พยายามควบคุมระเบียบวินัยของตัวเอง เพื่อให้พร้อมอยู่ตลอดเวลา และมีแผนที่จะเรียกเข้าแคมป์อีกครั้งในเดือนสิงคมนี้ หากการแข่งขันฟีฟ่าเดย์ กลับมาฟาดแข้งกันอีกครั้ง
พอพูดถึง นิชิโนะ แล้ว ก็นึกเสียดายอยู่เรื่องเดียวว่า นับตั้งแต่เข้ามาคุมทีมชาติไทยก็มีเวลาเตรียมตัวน้อยไปหน่อย ถึงโค้ชรายนี้จะพยายามสืบค้นข้อมูล ทำการบ้านเกี่ยวกับนักเตะไทยมาเป็นอย่างดีก็เถอะ
แต่ถ้าย้อนกลับไป แกมีเวลาเตรียมทีมสัก 1 เดือนเป็นอย่างน้อย บางทีแต้มที่ไทยเก็บได้ในเกมฟุตบอลโลกรอบคัดเลือก อาจจะเยอะกว่านี้ก็ได้
และอีกหนึ่งส่วนที่น่าเสียดาย คือในตำแหน่งผู้รักษาประตู ที่ยังไม่เห็น นิชิโนะ เรียกดาวรุ่งเข้ามาเก็บตัวกับทีมชุดใหญ่เลย เพื่อให้จอมหนึบอนาคตไกล ได้ซึมซับบรรยากาศ และดูดวิชาจากรุ่นพี่ในแคมป์ช้างศึก
จะว่าไปในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา ในตำแหน่งจอมหนึบของทีมชาติไทย มีการเปลี่ยนแปลงน้อยมาก ชุดก่อนนี้ขาประจำ 3 คนก็มีเพียง “ตอง” กวินทร์ ธรรมสัจจานันท์ “พี่ตี๋” สินทวีชัย หทัยรัตนกุล และ “แชมป์” ศิวรักษ์ เทศสูงเนิน เท่านั้น ส่วนที่เหลือก็เข้า ๆ ออก ๆ ไม่เป็นกิจจะลักษณะ
และหลังจาก สินทวีชัย ประกาศอำลาทีมชาติ ชัชชัย บุตรพรม ก็คือคนที่เข้าใส่เสียบแทนในตำแหน่งขาประจำทีมชาติ
แต่เมื่อดูจากอายุแล้วก็น่าห่วงนะครับ เพราะในตำแหน่งนายด่านนี้อายุเข้าเลข 3 กันหมดแล้ว ไล่เรียงดูจะเห็นว่า กวินทร์ อายุ 30, ชัชชัย อายุ 33, ศิวรักษ์ อายุ 36 ไม่เห็นนายด่านดาวรุ่งในตำแหน่งนี้เลย
จะว่าไปในทางปฏิบัติ แม้ส่วนใหญ่ใส่ชื่อผู้รักษาประตูในทีมได้ 3 คน แต่เอาจริง ๆ ก็มีแค่มือ 1 และมือ 2 เท่านั้น ที่พอขับเคี่ยวกันได้ ส่วนมือ 3 มีโอกาสน้อยมากที่จะลงสนาม ส่วนใหญ่ก็แค่สแตนด์บายในกรณีที่เหนือความคาดหมายจริง ๆ ถึงจะได้ลงเฝ้าเสา
ดังนั้น ถ้าจะเป็นการพัฒนาในตำแหน่งนี้ ให้มีตัวแทนอยู่ตลอดเวลาโดยไม่ขาดตอน ควรเว้นตำแหน่งมือ 3 ในทีมชาติชุดใหญ่ ให้ผู้รักษาประตูที่อายุไม่เกิน 25 น่าจะดีกว่า เพื่อให้จอมหนึบอนาคตไกลเหล่านี้ ได้มีโอกาสซึมซับประสบการณ์จากรุ่นพี่
ซึ่งมองบนเวทีไทยลีกแล้ว ยังมีอีกหลายรายที่รอโอกาสอยู่ ไม่ว่าจะเป็น สมพร ยศ, อภิรักษ์ วรวงศ์, ปฏิวัติ คำไหม, นนท์ ม่วงงาม หรือแม้แต่ รัตนัย ส่องแสงจันทร์ ก็ควรได้รับโอกาสในทีมชาติชุดใหญ่ได้แล้ว
ถึงแม้จะไม่ได้เล่น แต่อย่างน้อยได้เรียนรู้วิชาจากรุ่นพี่ ได้คำสั่งสอนที่ดี ได้เห็นถึงความยอดเยี่ยมของ “พี่ตอง-พี่แชมป์” ก็น่าจะทำให้น้อง ๆ เหล่านี้ มีไฟในการพัฒนาตัวเองที่มากขึ้นกว่าเดิม ไม่มากก็น้อย.
-LEMON JUICE-
"หายไป" - Google News
April 30, 2020 at 09:20AM
https://ift.tt/3f2bbUB
โอกาสที่หายไปในทีมชาติไทย - ไทยรัฐ
"หายไป" - Google News
https://ift.tt/3bJg2bb
Mesir News Info
Israel News info
Taiwan News Info
Vietnam News and Info
Japan News and Info Update
Bagikan Berita Ini
0 Response to "โอกาสที่หายไปในทีมชาติไทย - ไทยรัฐ"
Post a Comment