Search

ชาวบ้านบุกพิสูจน์จุดดวงไฟประหลาดหายไป บริเวณศาล 'เจ้าพ่อเขาหนองกรวยช้าง' - สยามรัฐ

soho.prelol.com

จากกรณีมีชาวบ้านหมู่ 3 , หมู่ 7 และหมู่ 14 ต.รางบัว จ.ราชบุรี หลายสิบคน พบเห็นดวงไฟประหลาดเปลี่ยนสีได้ ลอยวูบวาบอยู่เหนือยอดไม้กลางทุ่งนา และจะหายเข้าไปในเชิงเขาหนองกรวยช้าง ลักษณะดวงไฟลอยขึ้นสูงต่ำเปลี่ยนเป็น สีส้ม สีเขียว สีแดง และสีขาวได้ ทำให้มีชาวบ้านจากพื้นที่ต่างๆ ต่างพากันมาพิสูจน์ว่าดวงไฟดังกล่าวเป็นอะไรกันแน่ ตามที่ได้มีการเสนอข่าวไปแล้วนั้น

กระทั่งล่าสุด นายกล้า แก้วพฤกษ์ ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 3 ต.รางบัว พร้อมชาวบ้านในพื้นที่กว่า 20 คน ได้พาผู้สื่อข่าวขึ้นไปสำรวจบริเวณถ้ำเขาหนองกรวยช้าง ตั้งอยู่บริเวณหมู่ 3 ต.รางบัว อ.จอมบึง ตำแหน่งที่ชาวบ้านหลายสิบคนพบเห็นดวงไฟประหลาดลอยหายเข้าไปบริเวณเชิงปากถ้ำเขาหนองกรวยช้าง เพื่อพิสูจน์ให้รู้ว่าดวงไฟดังกล่าวนั้นคืออะไรกันแน่และหายเข้าไปภายในถ้ำจริงหรือไม่ แต่เมื่อมาถึงหน้าปากถ้ำเขาหนองกรวยช้าง กลับพบว่าปากถ้ำนั้นถูกปิดไม่สามารถเข้าไปพิสูจน์ภายในถ้ำได้ พบแต่เพียงคราบงูมีพิษขนาดใหญ่อยู่รอบๆทางเข้าถ้ำ โดยบริเวณปากถ้ำมีศาลเจ้าพ่อเขากรวยช้างตั้งอยู่ และยังพบกระบอกเซียมซีวางไว้โดยไม้เซียมซีมีเลขติดไว้ด้วย สำหรับให้ชาวบ้านที่ขึ้นมากราบไหว้ขอโชคลาภ แต่เนื่องจากชาวบ้านไม่ค่อยกล้าขึ้นมาบริเวณนี้ และศาลมีสภาพเก่าทำให้เลขที่เขียนไว้ที่ไม้เซียมซีถูกปลวกกัดกินจนแทบจะมองตัวเลขไม่เห็น ยกเว้นเลข 5 เลข 19 และเลข 13ยังมีสภาพสมบูรณ์ ชาวบ้านที่ขึ้นไปสำรวจต่างถ่ายรูปไว้แล้วนำไปโพสต์ลงเฟซบุ๊ก ทำให้ชาวบ้านที่รู้ข่าวต่างพากันไปหาซื้อเลข 19, 13, 519 และ 513 กันจำนวนมาก

สำหรับความลี้ลับของถ้ำเขาหนองกรวยช้าง มีตำนานเล่าสืบต่อกันมานาน นางลำใย ภูบาน อายุ 61 ปี ชาวบ้านหมู่ 3 ต.รางบัว เล่าให้ฟังว่าบริเวณเขาหนองกรวยช้าง มีเรื่องลี้ลับมากมาย ซึ่งตนเองและชาวบ้านในหมู่บ้านได้เจอมากับตัวแล้วหลายครั้ง แต่สมัยปู่ย่าตายายได้เล่าให้ฟังว่า นับตั้งแต่สมัยเมื่อสงครามไทยกับพม่า บริเวณดังกล่าวเป็นจุดยุทธศาสตร์ในการส่งเสบียงของทหารพม่าเมื่อเข้ามาตีทหารไทย แต่ทหารพม่าไม่สามารถส่งเสบียงให้กำลังทหารพม่าที่เข้ามารุกประเทศไทยได้ เนื่องจากอิทธิฤทธิ์ของเจ้าพ่อเขาหนองกรวยช้าง ทำให้ทหารพม่าต้องล่าถอยกลับบ้านเมืองไป และเมื่อ 300 ปีที่ผ่านมา ชาวบ้านเชื่อกันว่าบริเวณเขาหนองกรวยช้าง เป็นประตูสู่เมืองลับแล ตามเรื่องเล่าของคนเก่าคนแก่บอกว่า มีสามีภรรยาอยู่คู่หนึ่ง อยู่กินด้วยกันจนมีลูกชายวัย 2 ขวบ ในเมืองลับแล วันหนึ่งฝ่ายภรรยาได้ออกไปหาผลไม้ และให้สามีเป็นคนดูแลลูกชาย แต่ลูกชายร้องไห้หาแม่ไม่ยอมหยุด จนฝ่ายสามีต้องปลอบลูกชายว่า "อย่าร้องไห้ อีกแป๊ปเดียว เดี๋ยวแม่เจ้าก็กลับมาแล้ว" แต่มีชาวบ้านคนอื่นในเมืองลับแล ได้ยินฝ่ายสามีพูดโกหกลูกชายแบบนั้น จึงนำเรื่องไปแจ้งผู้ดูแลเมืองลับแล ซึ่งเมืองลับแล มีกฎว่า ห้ามทุกคนในเมืองลับแลพูดโกหก จึงสั่งลงโทษฝ่ายสามี โดยไล่ให้ออกไปจากเมืองลับแล ห้ามกลับเข้ามาในเมืองลับแลอีก

ภรรยาทราบเรื่องรู้สึกเสียใจมาก เพราะรักสามียิ่งกว่าชีวิต จึงไปแอบหักกิ่งขมิ้นใส่ถุงย่ามไว้เต็มถุงยาม ให้ฝ่ายสามี เพื่อให้สามีทิ้งกิ่งขมิ้นไว้ตามพื้นก่อนออกพ้นประตูถ้ำเมืองลับแล เพื่อยามใดคิดถึงลูกเมีย จะได้เดินตามกิ่งขมิ้นกลับมาเยี่ยมลูกกับเมียถูก แต่ฝ่ายสามีออกเดินทางไปได้ไม่ถึงไหนก็รู้สึกเหนื่อยเพราะถุงย่ามที่ใส่กิ่งขมิ้นหนักมาก จึงเทกิ่งขมิ้นทิ้ง เหลือไว้เพียง 6 กิ่ง ก่อนจะออกเดินทางต่อ และทำสัญลักษณ์ไว้กับต้นไม้แทน เพื่อจะได้จำทางกลับได้ แต่เมื่อพ้นประตูเมืองลับแล หรือ ปากถ้ำเขาหนองกรวยช้าง ฝ่ายสามีจึงหันหลังกลับไปดู พบว่าไม่มีประตูเมืองลับแลอยู่แล้ว และเมื่อเปิดในถุงย่ามจึงเห็นว่ากิ่งขมิ้นที่ฝ่ายภรรยาหักมาใส่ให้ในถุงย่าม กลับกลายเป็นทองดำ แต่ฝ่ายสามีต้องการจะกลับไปหาภรรยาและลูกชายที่เมืองลับแลให้ได้ จึงตั้งหลักปักฐานอยู่บริเวณเชิงเขาหนองกรวยช้าง แต่ก็ไม่สามารถกลับเข้าไปในเมืองลับแลได้กระทั่งเสียชีวิต และกลายเป็นดวงจิตที่ค่อยเฝ้าปากถ้ำเขาหนองกรวยช้าง เมื่อทุกคนเข้าไปใกล้จะถูกดวงจิตขับไล่ออกมา เพื่อป้องกันประตูเมืองลับและปกป้องสมบัติไว้ ไม่ให้ใครล่วงรู้หรือมาขโมยเอาไป..

Let's block ads! (Why?)



"หายไป" - Google News
May 09, 2020 at 05:10PM
https://ift.tt/3cdZUyG

ชาวบ้านบุกพิสูจน์จุดดวงไฟประหลาดหายไป บริเวณศาล 'เจ้าพ่อเขาหนองกรวยช้าง' - สยามรัฐ
"หายไป" - Google News
https://ift.tt/3bJg2bb
Mesir News Info
Israel News info
Taiwan News Info
Vietnam News and Info
Japan News and Info Update
https://ift.tt/3c5Fzvo

Bagikan Berita Ini

0 Response to "ชาวบ้านบุกพิสูจน์จุดดวงไฟประหลาดหายไป บริเวณศาล 'เจ้าพ่อเขาหนองกรวยช้าง' - สยามรัฐ"

Post a Comment

Powered by Blogger.