Search

สิ่งอื่นที่สำคัญกว่าสถิติ.. - สยามกีฬา

soho.prelol.com
สิ่งอื่นที่สำคัญกว่าสถิติ..

ทำสถิติได้มันก็ดี แต่สิ่งที่เราอาจจะลืมกันไปก็คือยังมีสิ่งอื่นที่สำคัญกว่าสถิติ..

    ผลเสมอในเกมล่าสุดที่แอนฟิลด์ทำให้ลิเวอร์พูลหมดโอกาสสร้างสถิติไปอีก 3 รายการ

-ชนะรวดเกมเหย้าในลีก 100%

-ชนะเกมเหย้าในลีกมากที่สุดในฤดูกาลเดียว

-เก็บแต้มเกมเหย้ามากที่สุดในฤดูกาลเดียว

    เมื่อสมทบกับสถิติอื่นๆ ที่หมดโอกาสทำลายไปแล้วทั้งทริปเปิ้ลแชมป์ สถิติไร้พ่ายติดต่อกันนานที่สุด ชนะต่อเนื่องมากที่สุด ชนะเกมเยือนเยอะที่สุด เก็บแต้มเกมเยือนมากที่สุด เสียประตูน้อยที่สุด ก็ทำให้เดอะค็อปบางส่วนรู้สึกกร่อยในอารมณ์อยู่บ้าง

    ได้แชมป์พรีเมียร์ลีกย่อมดีแน่ในแง่ความปรารถนาสูงสุด แต่ความยอดเยี่ยมของพวกเขาในช่วง 27 นัดแรกของฤดูกาลที่กำสถิติชนะ 26 เสมอ 1 ไว้ในมือทำให้หลายคนอดรู้สึกคาดหวังถึงการไล่กวาดทำลายสถิติไม่ได้

    อยากทำลายทุกสถิติที่ขวางหน้า พังมันให้ราบเป็นหน้ากลองระบายความอัดอั้นที่สั่งสมมา 3 ทศวรรษ

สิ่งอื่นที่สำคัญกว่าสถิติ..

    ในช่วงเวลาที่เต็มไปด้วยความมั่นใจและภูมิใจในทีม เรามองสถิติต่างๆ เหล่านั้นเหมือนเป็นของง่าย เล่นดีก็ชนะ เล่นไม่ดีก็ชนะ อึดอัดๆ ก็ยังมีคล็อปป์ไทม์มาช่วยตลอดอย่างนี้สถิติทั้งหลายจะไปคณามืออะไร

    ร้อยคะแนน ทิ้งห่าง 19 แต้ม ชนะรวดในบ้าน ไม่แพ้ใคร 49 นัด เล่นไปเรื่อยๆ เดี๋ยวก็ทำได้

    แต่ก็นั่นล่ะ ขึ้นชื่อว่าสถิติ มันใช่สิ่งที่เกิดขึ้นแบบกล้วยๆ เสียเมื่อไหร่

    เพราะฟุตบอลฤดูกาลหนึ่งกินเวลายาวนาน มีจุดพลิกผันเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา การจะสร้างสถิติทั้งหลายขึ้นมาได้นั้นต้องอาศัยคุณสมบัติที่ครบถ้วนทั้งฝีเท้า สภาพแวดล้อม และจังหวะเวลา

    ลิเวอร์พูลฤดูกาลนี้ออกตัวด้วยความร้อนแรงในแบบที่น่าจะไล่ทุบทุกสถิติจนราบคาบ แต่เมื่อโอกาสทำลายหลุดลอยไปทีละเรื่องๆ เราก็ได้เห็นภาพที่สะท้อนถึงความเป็นจริงว่าแต่ละสถิตินั้นไม่ได้ทำขึ้นมาง่ายๆ แต่ละยุคสมัยต่างก็มีทีมที่ยิ่งใหญ่ของมันอยู่

    ทริปเปิ้ลแชมป์ของแมนฯ ยูไนเต็ด ไร้พ่าย 49 นัดของอาร์เซน่อล เสียทั้งฤดูกาล 15 ประตูของเชลซี 100 แต้มและ 106 ประตูในซีซั่นเดียวของแมนฯ ซิตี้..

    มันเป็นสถิติที่ยิ่งใหญ่ทั้งสิ้น เราให้เกียรติกัน ยกย่องกัน เราเยี่ยม เขาก็เยี่ยม ยุคใครยุคมัน

    ไม่ดูถูกกันว่าก็เพราะเป็นการลองทีมหลังแต้มขาดแล้วหรอกสถิติหลายรายการถึงยังอยู่ พูดอย่างนั้นก็เหมือนลดทอนคุณค่าของทีมที่สร้างมันขึ้นมา และที่สำคัญมันไม่ใช่ความจริง

    คุณทดลองทีมคุณก็ได้ประโยชน์ที่รออยู่ในฤดูกาลใหม่ ถ้าคุณไม่ทดลองทีมคุณก็ได้ประโยชน์ในเรื่องสถิติที่อยู่ใกล้มือ ไม่ว่าคุณจะตัดสินใจอย่างไรมันมีผลลัพธ์ของมันอยู่ จะฉวยเอาข้อดีของทั้งสองเรื่องมาไว้ด้วยกันได้ยังไง

    ทุกสถิติต่างก็มีเบื้องหลังและเงื่อนไขที่วุ่นวายด้วยกันทั้งนั้น เพราะฉะนั้นในมุมมองของผม ขอยกย่องและชื่นชมทุกทีมที่เป็นเจ้าของสถิติน้อยใหญ่ทั้งหลายว่าคุณแน่มาก แน่จริงๆ

    ฤดูกาลนี้มีสถิติที่ลิเวอร์พูลทำลายลงไปเรียบร้อยแล้วคือเป็นแชมป์เร็วที่สุดเมื่อเหลือเกมเตะอีกถึง 7 เกม และยังเป็นแชมป์ช้าที่สุดด้วยเพราะต้องรอถึงปลายเดือนมิถุนายนแต้มจึงขาดอย่างเป็นทางการ

สิ่งอื่นที่สำคัญกว่าสถิติ..

    ชนะเกมเหย้าติดต่อกันมากที่สุด 24 เกมก็เป็นอีกสถิติที่ทีมหงส์แดงสร้างขึ้นมาใหม่

    แน่นอนมีหลายสถิติที่หลุดมือไป แต่อีก 3 เกมที่เหลือ แชมป์พรีเมียร์ลีก 2019/20 ก็ยังมีโอกาสทุบสถิติอีก 3 รายการคือ แต้มมากที่สุด 100 คะแนน ทิ้งห่างมากที่สุด 19 คะแนน และชนะมากที่สุด 32 นัด

    ว่ากันตามความน่าจะเป็นมันก็เป็นไปได้ แต่ก็ไม่ใช่เรื่องง่ายๆ ที่ต้องชนะรวดในอีก 3 เกมที่เหลือเพื่อทุบสถิติทั้ง 3 รายการนี้

    ที่สำคัญคือ ในมุมมองของทีม ยังมีเรื่องอื่นที่สำคัญกว่าสถิติ..

    ในเมื่อเราไม่ได้เสกสถิติทั้งหลายขึ้นมาได้ตามใจชอบ การทำลายสถิติจึงเป็นเรื่องของจังหวะเวลามากกว่า ถ้าจังหวะมันได้ก็มีโอกาสทำลายสถิติ สมมติว่าถ้าฤดูกาลนี้ แมนฯ ซิตี้ ยังรักษามาตรฐานของตัวเองเหมือน 2 ฤดูกาลที่ผ่านมาได้ ลิเวอร์พูลอาจทำลายสถิติมากกว่านี้ก็ได้เพราะคงต้องใส่เต็มที่กับ 7 เกมที่เหลือ

    แต่ในเมื่อสถานการณ์ไม่ได้เอื้อต่อการสร้างสถิติและในแง่มุมของการทำทีม สถิติจะมีความหมายอะไรถ้าทำให้ความพร้อมของทีมในภารกิจใหม่ลดลง

    บางทีมุมมองของคนทำทีมก็ไม่เหมือนกับแฟนบอล แฟนบอลอยากเห็นทีมทำลายสถิติ อยากภาคภูมิใจว่าเป็นเจ้าของสถิติใหม่ อยากเห็นทีมซื้อนักเตะคนนั้นคนนี้ อยากเห็นทีมแข็งแกร่งขึ้นด้วยขุนพลระดับโลก

    อินได้ หวังได้ แต่อย่าลืมว่าคนที่เขาทำทีมและขลุกอยู่กับทีมเขาเข้าใจเงื่อนไขยากง่ายต่างๆ มากกว่าเราเยอะ ลองนึกย้อนไปดูก็ได้ว่าเราเอาแต่ใจกันแค่ไหนตอนที่เห็น เจอร์เก้น คล็อปป์ ไม่ซื้อใครเสริมทีมเลยก่อนเปิดฤดูกาล 2019/20 รวมทั้งตอนพลาดตัว ติโม แวร์เนอร์ ที่หลายคนคงลืมคิดไปว่าลิเวอร์พูลไม่ใช่ทีมเงินถุงเงินถังพร้อมจ่ายเงินมากมายขนาดนั้นโดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงวิกฤติโควิด-19 เล่นงานทั่วโลก

    ส่วนเรื่องสถิติต่างๆ ที่หลุดมือไปทีละเรื่องๆ บางคนคิด บางคนไม่คิด บางคนเซ็ง บางคนเฉยๆ

    ถ้าจะลองดูจากการทำงานของคล็อปป์ เขาใช้ 7 เกมที่เหลือของฤดูกาลนี้เตรียมพร้อมสำหรับภารกิจป้องกันแชมป์ ไม่ใช่การทำลายสถิติ

    และหากเรายังไม่ทันสังเกต.. ผู้จัดการทีมของเราลงมือทำไปแล้วด้วย

    คำพูดที่เขาบอกว่า "ฤดูกาลหน้าเราไม่ได้ลงป้องกันแชมป์หรอกนะ แต่จะจู่โจมมันเองเลย" นั้นเขาไม่ได้พูดสวยๆ ให้ดูเท่ แต่เขาทำแล้ว ลงมือทำแล้ว

    เพราะในขณะที่แมนเชสเตอร์ ซิตี้ยังต้องมีโปรแกรมเอฟเอ คัพกับยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีกให้ใส่เต็มที่ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เชลซี เลสเตอร์ ต้องฟาดฟันกันถึงหยดสุดท้ายในการชิงตั๋วแชมเปี้ยนส์ ลีก หรือ อาร์เซน่อล กับ สเปอร์ส ก็ต้องชิงพื้นที่ไปยูโรปา ลีก ลิเวอร์พูลเหลือเพียงเกมที่ต้องเล่นให้จบตามโปรแกรม

สิ่งอื่นที่สำคัญกว่าสถิติ..

    คู่แข่งทั้งหลายต้องฟาดฟันด้วยตัวผู้เล่นชุดหลักไปจนจบฤดูกาลหรือต่อเนื่องในฟุตบอลถ้วยยุโรปหลังจบฤดูกาล ปล่อยไม่ได้ ชะลอไม่ได้ แต่ลิเวอร์พูลมี 7 เกมสุดท้ายที่จะทำอะไรกับมันก็ได้ จัดตัว ลองทีม สงวนพลังงานของนักเตะ และวางแผนสำหรับการป้องกันแชมป์ในฤดูกาลใหม่..

    ถ้าอยากทำลายสถิติ เราคงไม่ได้เห็น อลีสซง เบ็คเกอร์ กับ เฟอร์กิล ฟาน ไดค์ เป็นแค่ 2 คนที่ลงเล่นเต็มเวลาทุกเกมนับตั้งแต่กลับมาเตะกันอีกครั้งอย่างนี้แน่

    นักเตะตัวหลักถูกใช้งานอย่างถนอมร่างกายที่สุด โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่ เปลี่ยนลงสำรองหนึ่งเกม ที่เหลือเล่นตัวจริงและโดนเปลี่ยนตัวออกทุกเกมยกเว้นเกมล่าสุดกับเบิร์นลี่ย์ที่เล่นเต็มเวลา

    โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ซาดิโอ มาเน่ จอร์แดน เฮนเดอร์สัน จอร์จินิโอ ไวจ์นัลดุม ฟาบินโญ่ เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ แอนดี้ โรเบิร์ตสัน ได้พักกันถ้วนหน้า มากบ้าง น้อยบ้าง แต่ก็ได้พัก

    หากในเวลาเดียวกันคล็อปป์ก็ไม่ได้ปล่อยให้เลอะเทอะและเละเทะด้วยการใช้อลีสซงกับฟาน ไดค์ ประคับประคองเกมรับทุกนัด จะถนอมร่างกายนักเตะตัวหลักแต่ทีมแพ้ไม่มีทรงก็คงใช่ที่

    แฟนบอลมอง 7 นัดที่เหลือหลังคว้าแชมป์แบบหนึ่ง คืออยากเก็บ 21 คะแนนเต็มทุบทุกสถิติที่ขวางหน้า เอาให้ยิ่งใหญ่ตลอดกาลกันไปเลย สะใจดี

    แต่คล็อปป์มอง 7 นัดที่เหลือนั้นอีกแบบหนึ่ง ทีมของเขาอยู่ในสถานการณ์ที่ดีกว่าทีมอื่นตั้งเยอะแถมยังมีตัวช่วยเรื่องการเปลี่ยนตัว 5 คนเข้ามาอีกทำไมถึงจะไม่ใช้มันให้เป็นประโยชน์เล่า

    ได้เตรียมความพร้อมสำหรับฤดูกาลหน้าก่อนใคร มันคือโอกาสที่ทีมอื่นก็อยากจะมีเหมือนกันแต่ทำไม่ได้เพราะฤดูกาลนี้ยังลูกผีลูกคน พักตัวหลักแทบไม่ได้เลย แต่ลิเวอร์พูลทำได้และได้ทำ ได้ลอง ได้เห็นผล

    ความสำคัญอยู่ตรงนั้น

    อยู่ตรงที่คล็อปป์ได้ใช้ นาบี เกอิต้า ต่อเนื่อง ดาวเตะกีนีลงสนามทุกเกมนับตั้งแต่ฟุตบอลกลับมาเตะอีกครั้งไป 6 เกม เป็น 3 ตัวจริง 3 ตัวสำรองที่ถูกเปลี่ยนลงเล่น เทียบกับการได้โอกาสเล่นเพียง 9 จาก 29 เกมก่อนหน้านี้ (4 ตัวจริง 5 ตัวสำรองลงสนาม)

สิ่งอื่นที่สำคัญกว่าสถิติ..

    อยู่ตรงที่ได้เห็นฟอร์ม ทาคุมิ มินามิโนะ มากขึ้น 1 ตัวจริง 3 ตัวสำรองเปลี่ยนลงเล่น เทียบกับแค่ 3 จาก 16 เกมก่อนหน้านี้ที่ได้เล่นในฐานะตัวสำรองทั้งหมดนับตั้งแต่ย้ายมาจาก เร้ดบูลล์ ซัลซ์บวร์ก ในวันขึ้นปีใหม่

    อยู่ตรงที่ได้ลองใช้ อเล็กซ์ อ๊อกซ์เลด-แชมเบอร์เลน ทั้งในบทบาทมิดฟิลด์ตัวกลางและตัวรุกด้านบน ตำแหน่งหลังน่าจะยังมีอะไรสะกิดใจคล็อปป์อยู่เขาถึงลองใช้อดีตดาวเตะปืนใหญ่ในตำแหน่งนั้นอีกครั้งในเกมเยือนไบรท์ตัน อ๊อกซ์ลงสนามทั้ง 6 เกมที่กลับมาเตะเช่นกัน เป็น 2 ตัวจริง 4 ตัวสำรองเปลี่ยนลงเล่น

    คล็อปป์ได้ลองใช้นักเตะชุดสองอย่างกล้าใช้ได้มากขึ้น มีโอกาสได้เห็นผลงานในเกมจริงๆ ชัดขึ้นและได้ขัดเกลาความพร้อมให้กับพวกเขาในการเล่นร่วมกับทีมชุดหลักที่ในฤดูกาลปกติไม่สามารถทำได้เพราะทีมยังต้องการทุกคะแนน

    ได้พักร่างกายนักเตะตัวหลัก ถนอมร่างกายไว้สำหรับฤดูกาลใหม่พร้อมๆ ไปกับทดลองใช้นักเตะและรูปแบบการเล่นที่อยากเห็น

    7 เกมนี้พอยิ่งกว่าพอที่คล็อปป์จะได้เห็นว่าทีมชุดจู่โจมแชมป์ของเขายังมีจุดไหนต้องปรับปรุงหรือจำเป็นต้องเสริมความแข็งแกร่งด้วยนักเตะใหม่บ้าง มันคือภาพที่จริงที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้เพราะทั้งหมดอยู่บนพื้นฐานของเกมแข่งจริงไม่ใช่การซ้อมหรือโอกาสลงสนามอันจำกัดแค่ 10 นาที 15 นาที

    นอกเหนือไปจากนั้น 7 เกมที่เหลือยังถูกใช้เป็นประสบการณ์จริงกับเด็กดาวรุ่งที่อยู่ในแผนการใช้งาน

สิ่งอื่นที่สำคัญกว่าสถิติ..

    เคอร์ติส โจนส์ ฮาร์วี่ย์ เอลเลียตต์ เนโก้ วิลเลียมส์

    มีทีมไหนสามารถใช้งานเด็กเยาวชนของทีมในเกมพรีเมียร์ลีกที่มี 3 คะแนนเป็นเดิมพันตลอด 7 นัดหลังสุดได้บ้าง ลิเวอร์พูลอาจไม่ถึงขนาดนั้น แต่ก็ได้ใช้พวกเขาอย่างเป็นประโยชน์เต็มที่

    ไม่มีทางที่ โจนส์ (1 ตัวจริง 1 สำรองลงสนาม) เอลเลียตต์ (1 สำรองลงสนาม) และวิลเลียมส์ (2 ตัวจริง 3 สำรองลงสนาม) จะได้โอกาสมากขนาดนี้ถ้าสถานการณ์ในลีกยังตึงเครียดทุกคะแนนมีความหมาย

    มันจึงเป็นประสบการณ์ล้ำค่าที่ทั้ง 3 คนจะได้เก็บเกี่ยวเข้าตัว ได้เล่นในพรีเมียร์ลีกของจริง เจอเกมแบบผู้ใหญ่จริงๆ 7 เกมนี้จะเป็นพื้นฐานที่ดีมากๆ สำหรับพวกเขาในฤดูกาลใหม่

    การทดลองใช้วิลเลียมส์เป็นตัวจริง 2 เกมต่อเนื่องในตำแหน่งแบ๊กซ้ายกับไบรท์ตันแล้วกลับมายืนแบ๊กขวาข้างถนัดในเกมล่าสุดกับเบิร์นลี่ย์ คงไม่ใช่การจัดตัวแบบไร้ความหมายของคล็อปป์แน่

    เขาย่อมมีเป้าหมายในใจ ได้พักเทรนท์และร็อบโบ้นั่นเรื่องหลัก แต่เขาน่าจะมองเห็นและอยากทดลองอะไรบางอย่างสำหรับการใช้งานไอ้หนูวิลเลียมส์ด้วย

    ได้ผล ไม่ได้ผล หรือดีงามขนาดไหนไม่รู้หรอก แต่ที่แน่ๆ มันเป็นประโยชน์เพราะเขาได้ลองปรับแต่งทีมเพื่อให้ลงตัวที่สุดสำหรับซีซั่นใหม่ในขณะที่คู่แข่งทีมอื่นได้แค่มอง อยากทำบ้างแต่ทำไม่ได้

    นั่นแหละ 7 เกมที่เหลือในสายตาของคล็อปป์

    โปรแกรมเตะเดียวกัน เรามองเห็นฤดูกาลนี้ แต่คล็อปป์มองเห็นฤดูกาลหน้า

สิ่งอื่นที่สำคัญกว่าสถิติ..

    ในเวลาที่แฟนบอลมองสถิติ เสียดายสถิติ คล็อปป์ใช้ 4 จาก 7 เกมผ่านไปด้วยประโยชน์สูงสุด ทั้งประโยชน์ต่อตัวนักเตะชุดหลัก ชุดสอง ชุดเยาวชน ประโยชน์ต่อการทำงานของเขาและทีมงาน ประโยชน์ต่อการเตรียมพร้อมเข้าสู่ฤดูกาลใหม่ และเชื่อว่าเขาก็จะยังทำอย่างนั้นในอีก 3 เกมที่เหลือ

    เวลาที่เราทุกคนอยู่ใน 7 เกมสุดท้ายของฤดูกาลนี้ คล็อปป์ก้าวเข้าสู่ฤดูกาลใหม่แล้ว.. โดยที่เราไม่รู้ตัว

    จะป้องกันแชมป์ทั้งทีก็ต้องเป็นแชมป์ที่พร้อมที่สุด ผู้ท้าชิงลงนวม 100 ยก แชมป์ต้องลงนวม 150 ยก ผู้ท้าชิงวิ่ง 200 ก้าว แชมป์ต้องวิ่งไปแล้ว 300 ก้าว

    ฤดูกาล 2020/21 มีเวลาเตรียมตัวก่อนเปิดฤดูกาลแค่เดือนเดียวไม่ใช่ 2-3 เดือนเหมือนปกติ มันจึงเป็นฤดูกาลพิเศษ มุมมองในเรื่องสถิติจึงต้องเป็นอีกอย่าง

    หากทุกอย่างอยู่ในสภาวะปกติ ใครจะรู้คล็อปป์อาจสั่งลุยเต็มที่เพื่อกวาดทุกสถิติให้ราบคาบแล้วค่อยใช้การเตรียมตัวทดลองทีมในช่วงปรีซีซั่น เหมือนทีมอื่นๆ ก็ได้ แต่ในเมื่อสถานการณ์เป็นอย่างนี้ เขาจึงต้องละเอียดยิ่งขึ้น

    ในบางสถานการณ์สถิติก็สำคัญ แต่ในบางสถานการณ์สถิติก็ไม่ได้สำคัญที่สุด การเตรียมทีมให้พร้อมสำหรับฤดูกาลใหม่ทั้งสภาพร่างกาย ระบบ แท็คติก และตัวผู้เล่นสำคัญกว่า

    วันเปิดฤดูกาล 2020/21 ที่บางทีมยังบักโกรกจากภารกิจปลายซีซั่นก่อน มองการชิงชัยอีก 8-9 เดือนข้างหน้าด้วยใจละเหี่ย แชมเปี้ยนอย่างลิเวอร์พูลจะสดชื่นกระปรี้กระเปร่าจากการได้เตรียมตัวล่วงหน้ากันมาแล้วตั้งแต่ 7 เกมสุดท้ายของฤดูกาลแชมป์

    พวกเขาจะเป็นแชมป์ที่พร้อมที่สุดในการจู่โจมสู่แชมป์ครั้งใหม่ จากแผนงานที่ใส่ใจทุกรายละเอียด

    นี่คือแชมป์ของ เจอร์เก้น คล็อปป์ คิดและก้าวไปไกลกว่าคนอื่นก้าวหนึ่งเสมอ..

    ตังกุย

อีกหนึ่งช่องทางในการติดตามข่าวสาร
Add friend ที่ @Siamsport
เพิ่มเพื่อน

Let's block ads! (Why?)



"มันใช้งานได้" - Google News
July 15, 2020 at 06:20PM
https://ift.tt/2CDFbHw

สิ่งอื่นที่สำคัญกว่าสถิติ.. - สยามกีฬา
"มันใช้งานได้" - Google News
https://ift.tt/357dMYK
Mesir News Info
Israel News info
Taiwan News Info
Vietnam News and Info
Japan News and Info Update
https://ift.tt/3c5Fzvo

Bagikan Berita Ini

0 Response to "สิ่งอื่นที่สำคัญกว่าสถิติ.. - สยามกีฬา"

Post a Comment

Powered by Blogger.