Search

เสียบปลั๊กชาร์จไฟ วิ่งไกลกว่าเดิม ทดสอบยานยนต์พลังงานไฟฟ้า BMW i3S - ไทยรัฐ

soho.prelol.com

- น้ำแข็งขั้วโลกเหนือ และใต้ ละลายหมด ห่วงโซ่อาหารของโลกสลายหมดถึงขั้นวิกฤติ การเกษตรถึงขั้นวิกฤติ

- อุณหภูมิสูงขึ้นถึง 45 องศาเซลเซียส แหล่งน้ำแห้งเหือด

- แผ่นดินหลายส่วนของโลกเกิดการยุบตัว

- แหล่งอารยธรรมของโลกจะเริ่มถูกทำลาย กลับไปสู่ยุคเมื่อหลายล้านปีก่อนอีกครั้ง

รถยนต์พลังงานไฟฟ้าที่ไม่มีการปล่อยมลพิษ ยังคงได้รับความนิยมไม่มากเท่าที่ควร มลพิษที่เกิดขึ้นจากการเผาเชื้อเพลิงเป็นตัวการหลักที่ทำให้โลกเกิดสภาวะเปลี่ยนแปลงทางภูมิอากาศ แม้ยานยนต์พลังงานไฟฟ้าจะมีคุณประโยชน์ที่เหนือกว่ารถยนต์เครื่องยนต์สันดาปในด้านการไม่ปล่อยมลพิษออกมาแม้แต่กรัมเดียว แต่ระยะทำการที่ไม่มากพอในการที่จะวิ่งทางไกลได้ 500-600 กิโลเมตรเหมือนรถยนต์ที่ใช้น้ำมัน สถานีชาร์จไฟที่มีอยู่เพียงน้อยนิด รวมถึงราคาของรถไฟฟ้านำเข้าจากยุโรปหรืออเมริกาที่ยังมีอัตราภาษีสูงลิบ ทำให้รถไฟฟ้าในประเทศไทยยังไม่ใช่พวกดาวรุ่งพุ่งแรง คงต้องใช้เวลาอีกหลายปีกว่าที่รถยนต์พลังงานสะอาดจะได้รับความนิยมในไทย

กว่า 130 ปีที่รถยนต์เครื่องยนต์สันดาปได้เผาเชื้อเพลิงเพื่อการขับเคลื่อน ทำให้เกิดสภาวะเรือนกระจกหรือโลกร้อน อุณหภูมิของโลกขยับสูงขึ้น มีค่าใช้จ่ายด้านพลังงานสูงกว่าการใช้ระบบขับเคลื่อนแบบไฟฟ้า การปล่อยมลภาวะกลายเป็นปัญหาใหญ่ในปัจจุบัน เมื่อเชื้อเพลิงมีราคาพุ่งทะยานขึ้นอย่างต่อเนื่อง รวมกับมลพิษที่ปกคลุมเมืองใหญ่ทั่วโลก เกิดการเปลี่ยนแปลงของสภาวะภูมิอากาศโลกที่กลายเป็นปัญหาใหญ่ย้อนกลับมาเล่นงานมนุษย์

ค่ายรถของเยอรมัน เจ้าของตราสัญลักษณ์ใบพัดสีฟ้า-ขาว BMW Group ได้ทำการค้นคว้าวิจัยรถยนต์พลังงานไฟฟ้า ควบคู่ไปกับการพัฒนาปรับปรุงพลังงานจากมอเตอร์ ระบบชาร์จไฟ วัสดุน้ำหนักเบา และระบบ ActiveHybrid จนได้รถยนต์พลังงานสะอาด โดยเปิดตัวไปเมื่อช่วงปลายปี ค.ศ.2013 การวางรากฐานของรถยนต์ในตระกูลนี้ ด้วยการใช้อักษร i นำหน้ารุ่น ส่งผลให้ค่ายรถจากแดนไส้กรอกเจ้านี้มีผลิตภัณฑ์ยานยนต์ไฟฟ้าที่ล้ำสมัย แม้จะวิ่งได้ไม่ไกลมาก แต่ครอบคลุมการใช้งานหลากหลายรูปแบบโดยเฉพาะการขับในเมือง หนึ่งในรถรุ่นดังกล่าว คือ BMW i3S e-DRIVE ยานยนต์คนเมืองยุคใหม่แห่งอนาคตที่ไฮเทคสุดๆ ในปัจจุบัน

BMW i3S คือยานยนต์พลังงานไฟฟ้ารุ่นล่าสุดของค่ายใบพัด รูปลักษณ์ด้านหน้ามีการปรับปรุงเปลี่ยนแปลงจาก i3 รุ่นเดิมให้มีใบหน้าที่ลงตัวมากยิ่งขึ้น ไฟหน้าแบบ LED ไม่มีระบบอัตโนมัติมาให้เนื่องจากเหมาะกับการขับในเมืองมากกว่าจะเอาออกไปลากทางไกลบนถนนที่ปราศจากแสงไฟ กันชนหน้าแบบใหม่พร้อมไฟเลี้ยว LED ดูลงตัวมากกว่ากันชนของ i3 รุ่นแรก ตัวถังด้านข้างยังเหมือนเดิมไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงแต่ล้ออัลลอยลายใหม่มียางหน้ากว้างมากขึ้นจาก 175/50R20 เป็น 195/50R20 กระจังหน้าแบบปิดทึบ เอกลักษณ์ของ BMW i ไม่ว่าจะเป็น i3 หรือ i8 ก็จะใช้กระจังทรงนี้ ด้านข้างคืองานออกแบบยานยนต์แห่งอนาคตอย่างแท้จริง ประตูบานหลังเปิดออกแบบแคปของรถกระบะเป็นงานดีไซน์ที่แปลกตาแต่ใช้งานได้จริง มิติตัวถัง ยาว 3,999 มิลลิเมตร กว้าง 1,775 มิลลิเมตร สูง 1,758 มิลลิเมตร ความยาวฐานล้อ 2,750 มิลลิเมตร ระยะห่างล้อหน้า 1,571 มิลลิเมตร ระยะห่างล้อหลัง 1,576 มิลลิเมตร ระยะโอเวอร์แฮงค์หน้า 707 มิลลิเมตร ระยะโอเวอร์แฮงค์หลัง 722 มิลลิเมตร 

ประตูบานหลังของ i3 คุณต้องเปิดบานประตูหน้าออกก่อนแล้วเอื้อมมือไปที่ด้านบนของประตูบานหลังซึ่งออกแบบคล้ายเป็นเสากลางไปในตัว หลังคาสีดำตัดกับตัวถังสีแดงอย่างโจ่งแจ้ง ส่วนท้ายที่คล้ายกับรถยนต์ MPV หรือรถตู้ดูน่ารักแบบไม่เหมือนใคร ไฟท้าย LED ถูกครอบด้วยกระจกที่แยกจากกระจกฝาท้ายแบบสองชิ้น ฝาท้ายของรถยนต์ไฟฟ้าราคา 3.7 ล้าน ยังต้องใช้มือยกเพื่อเป็นการออกกำลังกายและช่วยประหยัดไฟ!! ผมชอบการออกแบบของไฟท้ายที่อยู่ในกรอบกระจกแบบสองชิ้น กรอบไฟมัลติรีเฟคเตอร์และกันชนหลังสวยงามลงตัว คุณไม่ต้องไปมองหาท่อไอเสียในรถคันนี้ให้เสียเวลาเนื่องจากมันเป็นรถยนต์ไฟฟ้า 100% ใจจริงอยากได้ i3 รุ่น range extender มาทดสอบมากกว่า อยากได้ภาพ i3S บนเส้นทางภูเขาที่ดูจะเข้าทีกว่าการขับแต่ในเมือง แต่ดันไม่มีรถทดสอบในรุ่นดังกล่าวและมีแค่ i3S ที่เป็นไฟฟ้าล้วนไม่มีตัวช่วยใดๆทั้งสิ้น เจ้า i3 range extender ที่ติดตั้งเครื่องยนต์มอเตอร์ไซค์ BMW 2 สูบ เมื่อวิ่งจนแบตฯเกือบจะหมดเครื่องยนต์จะติดขึ้นมาแบบอัตโนมัติ เพื่อปั่นกระแสไฟจ่ายให้กับมอเตอร์และช่วยยืดระยะให้เพิ่มมากขึ้นอีก 200 กิโลเมตร range extender นั้นดีต่อใจแต่ดันไม่มีขายซะงั้นล่ะครับ!

น้ำหนักคือสิ่งที่บั่นทอนประสิทธิภาพของรถยนต์พลังงานไฟฟ้าทุกคัน วิศวกรของ BMW พยายามลดทอนน้ำหนักส่วนเกินของ i3 ด้วยการคัดเลือกวัสดุน้ำหนักเบามาประกอบขึ้นเป็นแซสซีส์และเปลือกตัวถัง โดยยังคงคำนึงถึงความแข็งแกร่งในการใช้งาน รองรับและปกป้องผู้โดยสารด้วยระบบความปลอดภัยขั้นสูง โครงสร้างหลักของ i3S ในส่วนของแซสซีส์และโครงสร้างหลักของห้องโดยสาร ผลิตด้วยอะลูมิเนียมทรงกล่อง เป็นโครงสร้างที่เรียบง่ายและไม่มีความสลับซับซ้อน สำหรับการลดระยะเวลาการประกอบในขั้นตอนของสายการผลิต แซสซีส์ของ i3S ทนทานต่อแรงบิด รวมถึงกระจายแรงหากเกิดอุบัติเหตุ

ในส่วนของห้องโดยสาร BMW ใช้วัสดุที่มีความก้าวไกลด้านเทคโนโลยีวัสดุใหม่ของรถยนต์ นั่นก็คือวัสดุน้ำหนักเบาแต่มีความแข็งแรงซึ่งเรียกกันว่า CFRP หรือ Carbon Fibre-Reinforced Plastic เป็นโครงสร้างหลักและเปลือกตัวถังของรถแข่ง F1 หรือรถซุปเปอร์คาร์บางรุ่น CFRP มีน้ำหนักเบาแต่มีความแข็งแรงสูง รองรับที่นั่งในรถแบบ 2+2 เนื่องจากคุณสมบัติของ Carbon Fibre-Reinforced Plastic สามารถรับและกระจายแรงไม่แตกต่างจากโครงสร้างที่ใช้โลหะ ในขั้นตอนของการวิจัยและพัฒนาโครงสร้างอย่างเข้มข้น ทำให้รถ i3S มีน้ำหนักรวมที่ 1,340 กิโลกรัม ซึ่งถือว่าเบามากในกลุ่มรถยนต์ที่ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้า แซสซีส์อัลลอยออกแบบให้ท่อนส่วนกลางลำตัวเป็นรูปอุโมงค์ เพื่อการวางแบตเตอรี่ ตำแหน่งของการวางยังผ่านการคำนวณค่าเพื่อตัวเลขในการกระจายน้ำหนักที่ดี ซึ่งจะส่งผลไปถึงการขับขี่ควบคุม นอกจากนั้น จุดศูนย์ถ่วงและฐานล้อรวมถึงระดับความสูงของตัวรถ ยังผ่านการทดสอบเพื่อลดค่าศูนย์ถ่วงลงให้ต่ำมากที่สุดตัวเลขการกระจายน้ำหนักหน้า-หลังที่ 50:50 ทำให้เจ้า i3S มีความเสถียรในทุกย่านความเร็ว

ห้องโดยสารเน้นไปที่รูปแบบอันทันสมัย เพื่อเอาใจกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่นิยมรถยนต์พลังงานไฟฟ้า อุปกรณ์ต่างๆ รวมถึงรูปแบบของโทนสีภายใน วัสดุที่ถูกคัดเลือกมาใช้กับตำแหน่งของการติดตั้งยังคงสื่อให้เห็นถึงสายพันธ์ุยานยนต์จาก BMW ห้องโดยสารแบบ 4 ที่นั่ง พร้อมกับพื้นที่เก็บสัมภาระส่วนท้าย มันมีงานออกแบบการเปิดประตูแบบตู้กับข้าว เพื่ออำนวยความสะดวกในการขึ้น-ลง ประตูแบบดังกล่าว ยังสร้างความรู้สึกที่โปร่งโล่ง และทันสมัย คล้ายกับบานประตูของ Mazda RX-8 มาตรวัดหน้าปัดทั้งหมดใช้จอภาพ LCD เน้นไปที่ความคมชัดและความง่ายในการใช้งาน

มาตรวัดตรงหน้าคนขับ ใช้จอ LCD ขนาด 6.5 นิ้ว ที่ให้ความสว่างและความคมชัดสูง ส่วนจอมอนิเตอร์กลางของระบบ i-DRIVE ซึ่งควบคุมอุปกรณ์และระบบต่างๆ วางตำแหน่งไว้ที่กลางคอนโซลด้านบน เป็นจอ LCD ขนาด 8.8 นิ้ว ที่ออกแบบใหม่หมด แต่ยังคงคล้ายกับจอในรถรุ่น 3-Series f30 กึ่งกลางของเบาะคู่หน้า เป็นที่อยู่ของปุ่มสวิตช์ ควบคุมระบบ i-DRIVE รวมถึงสวิตช์ เลือกโหมดของการขับเคลื่อน แผงประตูและวัสดุที่ใช้ห่อหุ้มหลังคาเป็นผ้าสีเทา จอภาพ 8.8 นิ้ว ควบรวมฟังก์ชั่นต่างๆเหมือนคอมพิวเตอร์ส่วนกลาง ทำหน้าที่เป็นจอมอนิเตอร์ของการควบคุมระบบเครื่องเสียงติดรถ การเชื่อมต่อสื่อสารกับโลกภายนอก เป็นจอภาพมอนิเตอร์ของระบบนำทางด้วยดาวเทียมที่ละเอียดและคมชัด รวมถึงยังเป็นจอภาพของกล้องมองหลังอีกด้วย 

ส่วนเบาะทั้งหมดเป็นแบบครึ่งหนังครึ่งผ้า ใช้หนังอย่างนุ่มที่มีโทนสีเชื่อมโยงกับแผงคอนโซลและแผงประตูเพื่อความกลมกลืน โครงสร้างหลักของเบาะทำจากพลาสติกแทนที่โลหะแบบเก่าที่มีน้ำหนักมากกว่า ส่วนวัสดุที่ใช้ห่อหุ้มเบาะมีทั้งหนังแท้สีน้ำตาลอ่อนกับผ้าเนื้อดีสีเทา สายเข็มขัดนิรภัยทำเท่ด้วยการใช้โทนสีฟ้าของ BMW i นักออกแบบของ BMW ต้องการที่จะทำให้ห้องโดยสารของ i3 มีความโปร่งโล่ง จึงใช้โทนสีอ่อนที่เข้ากับรูปแบบของตัวรถ สำหรับกระจกบังลมรอบๆ ห้องโดยสาร ยังมีส่วนในการสร้างความรู้สึกปลอดโปร่ง ด้วยการออกแบบให้มีบานกระจกทรงแปลกตา ฝาท้ายกับกระจกบังลมบานหลังแทบจะเป็นชิ้นงานเดียวกัน มันเกิดขึ้นจากความจงใจที่จะทำให้ i3 มีมุมมองที่สื่อให้เห็นถึงความล้ำสมัย

ห้องโดยสารออกแนวห้องนั่งเล่นที่ตกแต่งด้วยเฟอร์นิเจอร์ล้ำๆ ประตูหน้าบานโตทำให้สัดส่วนของประตูบานหลังเล็กจนแปลกตา กระจกลดระดับความสูงในส่วนของเบาะผู้โดยสารตอนหลังเพื่อเพิ่มทัศนวิสัยมุมมอง ไม้โทนสีอ่อน จอภาพที่คุณคุ้นเคยและตำแหน่งของคันเกียร์ที่แปลกประหลาดราวกับยานสตาร์วอร์ส ทำให้ห้องโดยสารของ BMW i3 แตกต่างจากพี่น้องของมันอย่างสิ้นเชิง การออกแบบโดยย้ายคันเกียร์ไปอยู่ที่ก้านพวงมาลัยด้านขวาทำให้พื้นที่ส่วนกลางของซุ้มเกียร์หายไป กลายเป็นพื้นที่ว่างๆ ทำให้คนขับสามารถขยับตัวผ่านเบาะตอนหน้าได้อย่างที่ BMW คันอื่นทำไม่ได้ เกิดประโยชน์สูงสุดเมื่อคุณต้องจอดชิดกำแพงมากเป็นพิเศษเมื่อขับแล้วต้องจอดรถแถบเยาวราช ภายในของ BMW i3S ยังให้อารมณ์ยานยนต์ต้นแบบ Concept Car ด้วยจอภาพและงานตกแต่งที่เชื่อมกับแนวคิดของดีไซเนอร์ชั้นนำ อาจดูมีอุปกรณ์ไม่มากเหมือนรถไฟฟ้าจากแบรนด์อื่น แต่ความสลับซับซ้อนของระบบที่ถูกจัดวางปรุงแต่งมาเป็นอย่างดีทำให้การใช้งานง่ายดายด้วยการสร้างความคุ้นเคยในเวลาเพียงน้อยนิด เส้นโค้งและทึบสลับโปร่งของแดชบอรด์โชว์ให้เห็นแก่นแท้ของความตั้งใจและความสามารถของทีมออกแบบได้ดีที่สุด เส้นตะเข็บบนผ้า หนังและลายไม้ เส้นใยสังเคราะห์ บวกพลาสติกรีไซเคิล การออกแบบทำออกมาได้อย่างสวยงามลงตัว แผงประตู พนักเท้าแขน ปุ่มและสวิตช์กับพวงมาลัยทรงแปลกตาพร้อมจอภาพราวกับกำลังควบคุมยานเวลาไทม์แมชชีน

จอมัลติฟังก์ชั่นในส่วนคอนโซลกลาง ใช้ในการแสดงผลระบบ i-DRIVE ผ่านแป้นควบคุมอันเป็นเอกลักษณ์ของ BMW ยุคใหม่ พวงมาลัยสามก้านหุ้มหนังแท้ ส่วนเบาะโดยสารและแผงประตูรวมถึงงานตัดเย็บตกแต่งมีให้เลือกทั้งแบบหุ้มหนังหรือผ้าเนื้อหนา คอนโซลยังมีงานไม้คาดในตำแหน่งของผู้โดยสารด้านข้างคนขับ คอนโซลผลิตจากโฟมขึ้นรูปหุ้มด้วยไวนิล

วิศวกร และนักออกแบบของ BMW ทำการติดตั้งก้านสวิตช์ที่ออกแบบให้ทำงานคล้ายคันเกียร์เพื่อใช้สตาร์ตและควบคุมการขับขี่ โดยสามารถปรับระบบการขับเคลื่อนผ่านก้านสวิตช์ ที่อยู่บริเวณด้านขวาของคอพวงมาลัย โดยมีรูปแบบการใช้งานเหมือนกับการทำงานของก้านเกียร์อัตโนมัติ โดยมีตำแหน่งขับเคลื่อน D/P/N/R เรืองแสงสีแดงและสีเขียวในตำแหน่งที่กำลังถูกใช้งาน เพื่อทำให้ง่ายต่อการมอง รวมถึงความเรียบร้อยสวยงามรายละเอียดของชิ้นงานต่างๆ มีความประณีตสูง ตามสไตล์ของยานยนต์จากแดนไส้กรอกเหมือนเดิม มาตรวัดตรงหน้าคนขับใช้จอ LCD ขนาด 6.5 นิ้ว ที่ให้ความสว่างและความคมชัดสูง ส่วนจอของระบบ i-DRIVE ซึ่งควบคุมอุปกรณ์และระบบต่างๆ วางตำแหน่งไว้ที่กลางคอนโซลด้านบน เป็นจอ LCD ขนาด 8.8 นิ้ว ที่ออกแบบใหม่หมด แต่ยังคงคล้ายกับจอในรถรุ่น 3-Series f30 กึ่งกลางของเบาะคู่หน้า เป็นที่อยู่ของปุ่มสวิตช์ ควบคุมระบบ i-DRIVE รวมถึงสวิตช์ เลือกโหมดของการขับเคลื่อน แผงประตูและวัสดุที่ใช้ห่อหุ้มหลังคาเป็นผ้าสีเทาดำ

BMW i3S e-DRIVE ขับเคลื่อนด้วยพลังงานในรูปกระแสไฟจากแบตเตอรี่ ที่ส่งไปป้อนมอเตอร์ไฟฟ้า โดยทำการวางมอเตอร์ขับเคลื่อนไว้ที่ด้านหลัง สำหรับล้อขับเคลื่อนคู่หลัง แตกต่างจาก BMW i8 ที่ใช้มอเตอร์ขับเคลื่อนล้อคู่หน้า และใช้เครื่องยนต์ 3 สูบ วางกลาง ขับเคลื่อนล้อหลัง สำหรับมอเตอร์ไฟฟ้าของ i3S e-DRIVE นั้น สามารถสร้างกำลังได้สูงสุดถึง 184 แรงม้าหรือ 135 กิโลวัตต์ (จาก i3 รุ่นมาตรฐานที่ทำได้ 125 กิโลวัตต์) กับแรงบิดที่เพียงพอต่อการขับขี่ ทั้งในและนอกเมืองที่เพิ่มขึ้นจาก 250 นิวตันเมตร เป็น 270 นิวตันเมตร แรงบิดสูงสุดทะลักออกมาให้ใช้ตั้งแต่การออกตัวโดยไม่มีอาการรอรอบใดๆทั้งสิ้นจากการทำงานของมอเตอร์พลังสูง (ที่ค่อนข้างกินกระแสไฟอยู่พอสมควร) ทำให้ i3S มีความกระฉับกระเฉง คล่องแคล่วว่องไวเมื่อขับในเมือง มีอัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงสูงสีกับรถสปอร์ตคันเล็กเลยทีเดียว พลังงานจากแบตเตอรี่ในรูปของกระแสไฟฟ้าแรงดันสูงที่ส่งถ่ายให้กับแบตเตอรี่ ส่งผลให้ i3S มีความเหนือชั้นในด้านของแรงบิด

ทั้งนี้ แรงบิดสูงสุดของรถยนต์แบบ Hybrid ยังคงต้องอิงกับแรงบิดสูงสุดของเครื่องยนต์เป็นหลัก แตกต่างจากรถยนต์ที่ใช้พลังงานไฟฟ้าล้วนๆ แบบ i3S ที่แรงบิดสูงสุดมีให้ใช้ตั้งแต่การเริ่มต้นวิ่งออกตัวจากจุดหยุดนิ่ง อัตราเร่งจาก 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงทำได้ 6 วินาทีเศษ ส่วนความเร็วปลายไหลไปได้ถึง 156 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ความเร็วสูงสุดของมันถูกล็อกไว้แค่ 156 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เนื่องจากเป็นยานยนต์ที่ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้า ไม่จำเป็นต้องเร็วจี๋ระดับ 200 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ซึ่งจะทำให้เกิดการสิ้นเปลืองกระแสไฟจากแบตเตอรี่โดยใช่เหตุ

แบตเตอรี่ใหม่ใน BMW i3S e-DRIVE เป็นแบบลิเทียม-ไอออน 8 โมดูล 96 เซลล์ (แต่ละโมดูลมี 12 เซลล์) สามารถปล่อยแรงเคลื่อนไฟฟ้าในระดับ 360 โวลต์ จ่ายพลังงานไฟได้ 33.2 กิโลวัตต์ แบตเตอรี่ทั้งชุดเมื่อทำงานจะมีความร้อนแพร่ออกมา และทำให้อุณหภูมิของห้องเก็บแบตฯ สูงเกินความจำเป็น วิศวกรของ BMW จึงทำการติดตั้งอุปกรณ์หล่อเย็นเพื่อลดอุณหภูมิของแบตฯ ขณะทำงาน โดยอุณหภูมิแบตเตอรี่แบบลิเทียม-ไอออน จะสามารถทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ ที่อุณหภูมิประมาณ 20 องศาเซลเซียส แบตฯ แบบลิเทียม-ไอออนของ i3S มีระยะเวลาในการชาร์จกระแสไฟ 6-8 ชั่วโมง ในการเสียบชาร์จจากไฟบ้านและตั้งโหมดชาร์จช้า หากต้องการชาร์จเร็วในสถานีชาร์จไฟ จะใช้เวลาในการชาร์จประมาณครึ่งชั่วโมงจะได้กระแสไฟฟ้า 80% ส่วนอายุการใช้งานของแบตเตอรี่ลิเทียม-ไอออน มีอายุเฉลี่ย 8 ปี หรือ 100,000 กิโลเมตร ซึ่งเป็นระยะเวลาในการรับประกันชุดแบตฯ ตามมาตรฐานของค่าย BMW Group

ความสูง 1,578 มิลลิเมตร วัดจากพื้นถึงหลังคาทำให้ตำแหน่งนั่งขับสูงโด่งโจ้งราวเอมพีวี พวงมาลัยคงเส้นคงวา ทำงานด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าคอยแปรผันน้ำหนักไปตามความเร็วและให้ความรู้สึกถึงความเป็นรถ BMW แบตเตอรี่ที่อยู่กึ่งกลางระหว่างเพลาหน้ากับเพลาหลังโดยวางไว้บนพื้นทำให้จุดศูนย์ถ่วงของเจ้ากล่องไฟฟ้าคันนี้มีตัวเลขที่ดี ช่วงล่างแข็งสไตล์ BMW ต้องวิ่งบนทางเรียบๆ ถึงจะรับรู้ถึงประสิทธิภาพของโช้คและสปริง แรงสั่นสะเทือนจะปรากฏขึ้นบ้างเมื่อวิ่งผ่านผิวถนนที่ไม่เรียบแต่ไม่ได้มากเหมือนรถสปอร์ต ความสมดุลของกำลังและระบบรองรับทำให้ขับได้สนุก เร่งความเร็วเมื่อเจอทางโล่งได้อย่างมาดมั่นไม่แตกต่างไปจากรถเก๋งเครื่องโตที่กินเชื้อเพลิง ไร้มลพิษแต่กินไฟเอาเรื่องอยู่เหมือนกัน ไดนามิกออกมาในแบบกลางๆ ผสมปนเประหว่าง BMW Series 2 Active Tourer แต่เป็น Active Tourer ที่มีราคาแพงขึ้นมาอีกหนึ่งเท่าตัวจากระบบขับเคลื่อนที่แปลกแยกของมัน

มอเตอร์ไฟฟ้าต่อเชื่อมกับเฟืองท้าย สำหรับรุ่นไฟฟ้าเต็มรูปแบบที่ต้องเสียบปลั๊กชาร์จไฟทิ้งไว้ข้ามคืนสามารถทำระยะทางได้ด้วยแบตเตอรี่เพียวๆ 123 ไมล์หรือ 198 กิโลเมตร (ที่ย่านความเร็วต่ำ) พอสำหรับการขับในเมืองทั้งวันโดยเฉพาะเมืองที่มีสภาพการจราจรหนาแน่นอย่างกรุงเทพมหานคร แบตเตอรี่ Lithium -ion ขนาด 33.2 กิโลวัตต์พร้อมระบบระบายความร้อนด้วยน้ำเพื่อลดอุณหภูมิของแบตฯ ขณะใช้งาน น้ำหนักรวมของ BMW i3S อยู่ที่ 1.3 ตัน ไม่สร้างภารกรรมให้กับมอเตอร์มากนัก การออกแบบระบบชาร์จไฟเสริมทั้งการยกคันเร่งและการใช้เบรกก็จะกลายเป็นการชาร์จกระแสไฟเข้าแบตฯ แบบอัตโนมัติ ขับในเมืองหรือออกทางไกล เมื่อยกคันเร่งจะเกิดอาการหน่วงคล้ายรถเบรกด้วยตัวของมันเอง การหน่วงเมื่อยกคันเร่งที่มากกว่ารถ Hybrid ทำให้วิศวกรของ BMW ต้องทำให้ไฟเบรกติดทุกครั้งที่ผู้ขับทำการยกคันเร่งเพื่อความปลอดภัย ส่วนระบบเบรกแบบสะสมพลังงาน Brake Energy Re-generation เป็นการนำเอาพลังงานจลน์ที่เกิดขึ้นจากการเบรก และสูญเสียไปโดยเปล่าประโยชน์ในรถทั่วๆ ไป ให้สามารถนำกลับมาใช้ในรูปแบบของพลังงานไฟฟ้า โดยประจุพลังไฟกลับคืนไปยังแบตเตอรี่อย่างต่อเนื่องตลอดการขับขี่ทุกครั้งที่ใช้เบรก

ระบบแผนที่นำทางใน BMW i3S สามารถแจ้งถึงสถานีชาร์จไฟที่อยู่ใกล้ เชื่อมโยงกับโหมดของการขับเคลื่อน ECO Pro / Comfort และ Sport  ข้อมูลแสดงความสิ้นเปลืองกระแสไฟ เช่น หากใช้โหมด Sport รถจะแล่นได้ไกลเท่าไหร่ หรือแม้แต่การเปิดใช้งานระบบปรับอากาศ ทุกสิ่งทุกอย่างที่อยู่ในรูปของพลังงานไฟฟ้าจะถูกคำนวนและส่งถ่ายข้อมูลผ่านจอภาพมอนิเตอร์ให้คนขับได้รับรู้อยู่ตลอดเวลา แม้แต่การเปิดระบบอุ่นเบาะก็ยังส่งผลไปถึงการใช้กระแสไฟ รวมถึงคำแนะนำว่าคุณควรจะทำอย่างไรเมื่อเหลือพลังงานไม่เพียงพอที่จะวิ่งไปถึงยังจุดหมายปลายทาง เช่น การแนะนำให้ใช้โหมด ECO Pro ซึ่งเป็นโหมดขับเคลื่อนที่กินกระแสไฟฟ้าน้อยที่สุด แต่ก็ขึ้นอยู่กับเท้าขวาของคุณว่าจะขับแบบไปเรื่อยๆ หรือขับเร็วเหมือนที่เคยขับในรถยนต์เครื่องยนต์สันดาปภายใน การใช้คันเร่งอย่างระมัดระวังช่วยเพิ่มระยะทำการของมันให้ไกลขึ้นได้บ้างแต่ก็ยังไม่มากเท่าที่ควรจะเป็น 

i3 เป็นรถเล็กที่มีทัศนวิสัยดีเยี่ยม ตำแหน่งท่านั่งขับค่อนข้างสูง ทำให้มองเห็นได้ไกลคล้ายกับกำลังขับรถครอสโอเวอร์ยกสูง  ด้วยความที่เป็นยานยนต์พลังงานไฟฟ้าใช้มอเตอร์ในการขับเคลื่อน แรงบิด 270 นิวตันเมตร (มากกว่า i3 รุ่นมาตรฐานที่มีแรงบิด 250 นิวตัน-เมตร) แรงบิดจึงออกมาอย่างไหลทะลักเมื่อลงคันเร่งลึกๆ แรงดึงจะกดหลังคุณจนติดเบาะพร้อมๆกับตัวเลขความเร็วที่พุ่งขึ้นไปแตะ 150 กิโลเมตรต่อชั่วโมงอย่างรวดเร็วโดยไม่มีอาการชะงักงันหรือเฉื่อยชาแม้แต่นิดเดียว มันเร่งจาก 0-100 ได้ดีพอๆกับ MINI Cooper JCW รุ่นที่แล้ว ในขณะที่ช่วงไต่ระดับความเร็วจาก 70 ไปจนถึง 140 กิโลเมตรต่อชั่วโมงนั้นเร็วพอฟัดพอเหวี่ยงกับ BMW 330e แต่การเร่งความเร็วแบบนั้นก็ทำให้เกิดอาการกินกระแสไฟในแบตฯแบบยับเยิน และถ้าคุณยังไม่ยอมลดราวาศอกกับการเติมคันเร่งอย่างต่อเนื่อง ระดับของไฟในแบตฯที่อยู่บนจอภาพมาตรวัดจะลดลงเร็วราวกับตลาดหุ้นในช่วงโควิด-19 และอาจทำให้ไฟไม่พอที่จะวิ่งไกลๆ ได้อีกนอกจากจะต้องหาที่ชาร์จไฟเพื่อเติมพลังงานให้กลับมาเต็มอีกครั้ง 

พวงมาลัยไฟฟ้าให้ความรู้สึกแปลกๆ เนื่องจากใช้ยางไซส์ประหลาด 195/50R20 ถึงแม้จะเป็นรถที่มีจุดศูนย์ถ่วงดีเพราะเอาแบตเตอรี่ไปวางไว้ใต้พื้นรถในช่วงระหว่างเพลาหน้าและเพลาหลังเพื่อการกระจายน้ำหนักที่สมดุล แต่ความสูง 1,578 มิลลิเมตร ทำให้รู้สึกว่านั่งแล้วเหมือนลอยอยู่บนถนน พวงมาลัยให้ความรู้สึกเบาแต่ไม่หลอกเมื่อขับทางตรง มันยังมีอาการสะเทือนเมื่อขับบนผิวทางที่ไม่เรียบเนื่องจากการเซ็ตช่วงล่างที่เน้นความแข็งมากกว่าความนุ่ม ความสมดุลที่ล้อหลังทำให้เข้าโค้งได้ดี (ด้วยความเร็วที่เหมาะสมกับโค้ง) มีแรงยึดเกาะกับถนนมากพอที่จะทำให้รู้สึกมั่นใจเมื่อต้องขับเร็วๆ สิ่งที่ i3S ขาดหายไปก็คือการสื่อสารระหว่างคนกับรถผ่านระบบบังคับเลี้ยวและช่วงล่าง การสื่อสารดังกล่าวคือเอกลักษณ์ของยานยนต์จาก BMW มันเป็นรถที่มีไดนามิกแปลกแยกและแตกต่างไปจาก BMW รุ่นอื่นๆอย่างชัดเจน โดยเฉพาะการที่ไม่มีเสียงเครื่องยนต์ เร่งปุ๊บไปปั๊บ และไม่มีเกียร์ให้เล่นเหมือนรถยนต์เครื่องยนต์สันดาปภายในที่คุณคุ้นเคยมาทั้งชีวิต 

การชาร์จไฟกับอุปกรณ์ i WallBox ไม่วุ่นวาย ใช้เวลาแค่ 3-4 ชั่วโมงไฟก็เข้าเกือบจะเต็มแบตฯ ส่วนการชาร์จเร็วตามสถานีชาร์จพร้อมบัตร Charge Now ของ BMW Thailand ใช้เวลาในการประจุไฟแค่ 30 นาที คุณก็จะได้พลังไฟฟ้าในแบตฯมากถึง 80% และการชาร์จเองที่บ้านโดยไม่มีอุปกรณ์ชาร์จของ BMW ใช้การเสียบปลั๊กสามตาเข้ากับเต้าไฟภายในบ้าน สายไฟและมิตเตอร์ไฟฟ้าควรมีขนาดใหญ่และไม่ควรใช้ปลั๊กต่อพ่วงที่มีสายเล็กเกินไปไม่เหมาะกับการชาร์จไฟใน i3 ซึ่งกินกระแสไฟฟ้าพอๆกับเครื่องปรับอากาศขนาด 18,000 BTU วิศวกรของ BMW i ยังออกแบบให้คุณเลือกระดับของการชาร์จได้ 3 สเกลก็คือ Low / Medium / High ไฟบ้านทั่วไปใช้แบบ Low จะใช้เวลาชาร์จนาน 8-12 ชั่วโมง หรือขึ้นอยู่กับระดับไฟในแบตฯก่อนชาร์จว่าเหลือมาก-น้อยเท่าไร ส่วนการชาร์จเร็วในสถานีชาร์จก็จะได้ความรวดเร็วแค่ครึ่งชั่วโมง กาแฟยังไม่ทันจะหมดแก้วไฟก็เกือบจะเต็มแบตเตอรี่แล้วละครับ 

รถไฟฟ้าอย่าง BMW i3S ทำให้ผมรู้สึกประทับใจ แต่ราคา 3.7 ล้านบาทของมันแพงเกินไปเมื่อต้องจ่ายให้กับรถไฟฟ้าที่วิ่งได้แค่ 198 กิโลเมตร แต่คุณจะเป็นคนกลุ่มเล็กๆ ที่ใช้รถยนต์แบบไร้มลพิษ ส่วนเรื่องอัตราภาษีนำเข้าของรถยนต์ไฟฟ้าที่แพงแสบไส้ในประเทศไทย ซึ่งเป็นที่มาของราคา ก็ยังไม่ได้มีมาตรการอะไรที่จะช่วยเหลือคนเลือกใช้รถไฟฟ้าเหมือนในยุโรป เรื่องนี้ก็ต้องขอให้ภาครัฐช่วยแสดงความจริงใจให้มากกว่านี้ ในการปรับลดอัตราภาษีนำเข้าของรถยนต์พลังงานสะอาด เพิ่มสถานีชาร์จตามปั๊มน้ำมันต่างจังหวัดให้มากกว่าที่มีอยู่ในขณะนี้ การลดภาษีและเพิ่มจำนวนสถานีชาร์จไฟจะช่วยเพิ่มแรงจูงใจให้กับคนอยากได้ด้วยราคาที่เป็นธรรมและที่ชาร์จซึ่งมีอยู่อย่างกลาดเกลื่อน ไม่ต้องรอรถไฟฟ้าประกอบในประเทศที่อีกนานกว่าจะโผล่ออกมาให้เห็น การเปลี่ยนแปลงระบบขับเคลื่อนที่ก่อให้เกิดมลภาวะมาเป็นความสะอาดแบบไร้มลทินนั้นเป็นเรื่องที่ดีต่ออนาคตของลูกหลานและตัวเราเอง รถอย่าง BMW i3S ควรจะมีราคาแค่ 1.4 ล้าน ไม่ใช่ 3.7 ล้าน ซึ่งเงินเกือบครึ่งถูกเทไปให้กับอัตราภาษีที่แพงแสบไส้นั่นเอง. 

รายละเอียดด้านเทคนิค
มอเตอร์ไฟฟ้า เทคโนโลยี BMW eDrive
กำ ลังสูงสุด 135 กิโลวัตต์ 184 แรงม้า
แรงบิดสูงสุด 270 นิวตัน - เมตร
ประสิทธิภาพการใช้ไฟฟ้า (มาตรฐาน NEDC) 14.3 กิโลวัตต์ / 100 กิโลเมตร)
ชนิดแบตเตอรี่  Lithium-ion (แรงดันสูง)
ความจุพลังงานแบตเตอรี่ไฟฟ้าแรงสูง (33.2 กิโลวัตต์ - ชั่วโมง) 
ระยะทางวิ่งสูงสุด มาตรฐาน NEDC 280 กิโลเมตร วิ่งทดสอบได้ประมาณ 198 กิโลเมตร
ความเร็วสูงสุด 160 กิโลเมตร / ชั่วโมง
อัตราเร่ง 0 - 100 กิโลเมตร / ชั่วโมง 6.9 วินาที
ล้อ ล้ออัลลอย ขนาด 20 นิ้ว ลาย Double-spoke
ขนาดยาง ล้อหน้า: 5.5 × 20 / ยาง 175/55 R20
ล้อหลัง: 6 × 20 / ยาง 195/50 R20
มิติรถยนต์ ยาว 4,006 มิลลิเมตร กว้าง 1,791 มิลลิเมตร สูง 1,590 มิลลิเมตร
ปริมาตรในการบรรจุของ  260 - 1,100 ลิตร
น้ำ หนักรถสุทธิ 1,340 กิโลกรัม
ระบบขับเคลื่อนและเทคโนโลยี
พวงมาลัยไฟฟ้าปรับน้ำ หนักตามความเร็วรถขณะขับขี่ (Servotronic) 
ปุ่มควบคุมมัลติฟังก์ชันที่พวงมาลัย 
ระบบช่วยการขับขี่ รุ่น Plus (Driving Assistant Plus) 
อุปกรณ์ภายนอก
ระบบไฟหน้าแบบ LED 
ระบบใบปัดน้ำ ฝนทำ งานอัตโนมัติ 
ระบบปลดล็อกประตูอัจฉริยะ (Comfort Access System) 
สปอยเลอร์ท้าย 
อุปกรณ์ภายใน
กระจกมองข้างและกระจกมองหลังตัดแสงอัตโนมัติ 
พนักวางแขนระหว่างเบาะนั่งตอนหน้า 
เข็มขัดนิรภัยดีไซน์ BMW i Blue 
ภายในตกแต่งด้วยไม้ลาย oak dark แบบด้าน 
ภายในตกแต่งดีไซน์ BMW i Suite 
ระบบปรับอากาศอัตโนมัติ 
ฟังก์ชันช่วยการจัดเก็บสัมภาระ 
ระบบความบันเทิงและการสื่อสาร
ระบบวิทยุพร้อมแผนที่นำ ทาง รุ่น Professional 
ปุ่มควบคุม iDrive 
ระบบ BMW ConnectedDrive 
ระบบเชื่อมต่อโทรศัพท์ผ่าน Bluetooth และช่อง USB 
ความปลอดภัย
ถุงลมนิรภัยสำ หรับคนขับและผู้โดยสารตอนหน้า 
ถุงลมนิรภัยด้านข้างสำ หรับคนขับและผู้โดยสารตอนหน้า 
ถุงลมนิรภัยศีรษะสำ หรับผู้โดยสารตอนหน้าและหลัง (ยกเว้นผู้โดยสารตอนหลังกลาง) 
ระบบ Teleservices 
ปุ่มโทรออกฉุกเฉิน (Intelligent Emergency Call) 
ระบบป้องกันล้อล็อกขณะเบรก (ABS) 
ระบบช่วยเสริมแรงเบรกอัตโนมัติ (Brake Assist) 
ระบบควบคุมการกระจายแรงเบรกขณะเข้าโค้ง (CBC) 
ระบบสร้างเสียงจำ ลอง เตือนผู้ใช้ถนนรอบข้าง 
เซนเซอร์ควบคุมระยะการจอดด้านหน้าและหลัง 
กล้องแสดงภาพด้านหลัง 
ชุดปะยางฉุกเฉิน 

BMW i3S เลือกแพ็กเกจการรับประกันนานสูงสุด 5 ปี ไม่จำกัดระยะทาง
และการบริการดูแลบำรุงรักษาสูงสุด 5 ปี หรือ 100,000 กม. (แล้วแต่ระยะใดถึงก่อน)

อาคม รวมสุวรรณ
E-Mail chang.arcom@thairath.co.th
Facebook https://www.facebook.com/chang.arcom
https://www.facebook.com/ARCOM-CHANG-Thairath-Online-525369247505358/

Let's block ads! (Why?)



"มันใช้งานได้" - Google News
June 18, 2020 at 10:00AM
https://ift.tt/2Y96vGa

เสียบปลั๊กชาร์จไฟ วิ่งไกลกว่าเดิม ทดสอบยานยนต์พลังงานไฟฟ้า BMW i3S - ไทยรัฐ
"มันใช้งานได้" - Google News
https://ift.tt/357dMYK
Mesir News Info
Israel News info
Taiwan News Info
Vietnam News and Info
Japan News and Info Update
https://ift.tt/3c5Fzvo

Bagikan Berita Ini

0 Response to "เสียบปลั๊กชาร์จไฟ วิ่งไกลกว่าเดิม ทดสอบยานยนต์พลังงานไฟฟ้า BMW i3S - ไทยรัฐ"

Post a Comment

Powered by Blogger.