แพ้พ่ายใช่ล้มเหลว - สยามกีฬา

soho.prelol.com

สมัยยังเยาว์ ยูเลี่ยน นาเกลส์มันน์ ฝันอยากเป็นนักเตะอาชีพเหมือนเด็กชายผู้บ้าบอลทั่วไป

    โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เมื่อเขาลืมตาดูโลกบนแคว้นบาวาเรีย  ดินแดนแห่งลูกหนังอันเป็นที่ตั้งของสโมสรดังมากมาย 

    อย่าง บาเยิร์น มิวนิค, 1860 มิวนิค, เนิร์นแบร์ก หรือ เอาก์บวร์ก เป็นอาทิ 

    ด.ช. ยูเลี่ยน หิ้วสตั๊ดออกจาก ลันส์เบิร์ก อัม เลช เมืองบ้านเกิด เพื่อไปฝึกฝีเท้ากับ 1860 มิวนิค ก่อนจะสามารถพาอุ้งเท้าน้อยๆ ของตัวเองเข้าสังกัดทีมเยาวชนของสโมสรได้สำเร็จในปี 2002 

    ทว่าน่าเศร้าที่เขาถูกอาการบาดเจ็บหัวเข่ารังควาญอย่างหนัก จนกระทั่งจำต้องบอกลาชีวิตนักเตะด้วยวัยแค่ 20 ปีตามคำแนะนำของแพทย์และเสียงครวญครางของร่างกาย หลังย้ายกลับมาเล่นให้ทีมรุ่นยู-19 ของ เอาก์บวร์ก 

    "ผมไม่อยากทำอะไรเกี่ยวกับฟุตบอลอีกเลย" นาเกลส์มันน์ เคยหล่นคำสัมภาษณ์ไว้ "มันเศร้ามากสำหรับผมในการที่จะต้องหยุดเล่นตอนที่อายุยังน้อย" 

    มือที่เคยถือลูกบอลและสตั๊ด กลายเป็นมือที่ต้องหอบตำรามุ่งหน้าเข้าสู่รั้วมหาวิทยาลัยเพื่อการศึกษาเล่าเรียนอย่างจริงจัง 

    นาเกลส์มันน์ ลงทะเบียนเรียนวิชาบริหารธุรกิจได้ 4 เทอม แต่ขณะเดียวกัน เขาก็เฝ้าดูร่วมรุ่นที่เติบโตมาด้วยกันบนถนนสายลูกหนังอย่าง คริสเตียน เทรสช์ และ ฟาเบียน จอห์นสัน สถาปนาตัวเองบนเวทีบุนเดสลีกาด้วยสายตาอวยพร 

    เขาปฏิเสธตัวเองไม่ได้ว่าฟุตบอลยังคงอยู่ในหัวใจเขาเสมอ

    นาเกลส์มันน์ ตัดสินในเบนเข็มสายการเรียนจากธุรกิจสู่วิทยาศาสตร์กีฬา และวิชาการซ้อมสมัยใหม่ตามที่ใจสั่งมา จนสำเร็จปริญญาอย่างงดงาม
 
    เขามองเห็นหนทางที่จะได้ใช้ชีวิตให้ชิดกับฟุตบอลที่เขารักได้โดยไม่จำเป็นต้องสวมสตั๊ดลงไปวิ่งปุเลงๆ ในสนาม

     หลังสำเร็จการศึกษา นาเกลส์มันน์ นับหนึ่งกับบทบาทโค้ชด้วยการรับงานที่ เอาก์บวร์ก

    ที่สโมสรเก่า เขาได้เรียนรู้อะไรใหม่ๆ มากมายจากผู้ชายที่ชื่อ โธมัส ทูเคิ่ล 

    ในฐานะผู้ช่วยโค้ชทีมสำรอง นาเกลส์มันน์ ได้รับมอบหมายจากกุนซือใหญ่อย่าง ทูเคิ่ล ให้ทำหน้าที่วิเคราะห์คู่แข่ง 

    ชุดข้อมูลที่เขาเรียบเรียงและนำเสนอ ทำให้ ทูเคิ่ล รู้สึกว้าวมาก 

    มันทั้งละเอียด ครบถ้วนทั้งจุดแข็ง-จุดอ่อนของคู่ต่อสู้ ซึ่งผ่านการกลั่นกรองจากก้อนสมองออกมาอย่างดี 

    "เขาเป็นโค้ชคนหนุ่มที่ใฝ่รู้ กระตือรือร้น และทำงานหนักเสมอ" ทูเคิ่ล เคยพูดถึงอดีตมือขวาของเขาไว้

    นาเกลส์มันน์ เดินหน้าเก็บเลเวลไปเรื่อยๆ บนเส้นทางโค้ช
 
    เขาไล่ทำทีมตั้งแต่รุ่น ยู-16 จนถึง ยู-19 จนชื่อเสียงขจรขจายไปทั่วภาคตะวันตกเฉียงใต้ของเยอรมนี โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ผลงานมาสเตอร์พีซที่สามารถนำทัพเยาวชน ฮอฟเฟ่นไฮม์ ครองแชมป์บุนเดสลีการุ่นยู-19 ในฤดูกาล 2013/14 

    เขากลายเป็นผู้ช่วยเทรนเนอร์ทีมชุดใหญ่ที่มีอิทธิพลเชิงบวกในทีมมาก จน ทิม วีเซ่ มือกาวคนดังตั้งฉายาให้เขาว่า "เบบี้-มูรินโญ่" จากความปราดเปรื่องเรื่องแท็กติกลูกหนัง 

    ทุกคนในทีมรู้ เช่นเดียวกับบอร์ดบริหารสโมสรที่ตัดสินใจวางตัวให้ นาเกลส์มันน์ เป็นเทรนเนอร์คนต่อไป ด้วยประกาศแต่งตั้งล่วงหน้าด้วยสัญญา 3 ปี จนทำให้เขาถูกบันทึกว่า เป็นกุนซือที่อายุน้อยสุดในบุนเดสลีกาด้วยวัยเพียง 28 ขวบ

    คำประกาศมีขึ้น ณ วันที่ 27 ตุลาคม 2015 และหวังให้มีผลบังคับใช้ในฤดูกาล 2016/17 แต่เมื่อ ฮูบ สตีเว่นส์ กุนซือใหญ่มีปัญหาสุขภาพจนต้องขอลุกจากเก้าอี้ก่อนกำหนดเมื่อวันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2016 ทำให้วันของ นาเกลส์มันน์ มาเร็วกว่าที่คิด 

    11 กุมภาพันธ์ 2016 คือวันที่ นาเกลส์มันน์ รับบทเทรนเนอร์ ฮอฟเฟ่นไฮม์ เต็มตัวท่ามกลางความเคลือบแคลงใจของคนนอก แต่ไม่ใช่เลยสำหรับนายเก่าผู้เป็นเสมือนคุณครู
 
    "เขาสนุกกับประสบการณ์เหลือเชื่อในระดับเยาวชนมาแล้ว ผมแฮ็ปปี้มากที่เห็นเขาขึ้นมา และผมก็เชื่อมั่นในตัวเขา" ทูเคิ่ล ที่นั่งเก้าอี้เทรนเนอร์ โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ ณ เวลานั้นว่าไว้ 

    ฮอฟเฟ่นไฮม์ รั้งอันดับ 17 บนตารางในวันที่ นาเกลส์มันน์ เข้ามาจัดการทีมเต็มตัว โดยอยู่ห่างจากโซนปลอดภัยถึง 7 แต้ม และมีทีท่าว่าจะตกชั้น แต่ที่สุดแล้ว เขาก็ทำให้ทีมรอดตายด้วยการคว้าชัยถึง 7 จาก 14 นัดที่เหลือ

    ฤดูกาลที่เพิ่งจบไปว่าดีแล้ว แต่ฤดูกาลถัดมาดียิ่งกว่า 

    ซีซั่น 2016/17 นาเกลส์มันน์ พา ฮอฟเฟ่นไฮม์ คว้าอันดับ 4 อย่างสง่าผ่าเผยจนได้ตั๋วไปลุย แชมเปี้ยนส์ ลีก เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์สโมสร 

    วิธีการทำงานของเขากลายเป็นเรื่องที่ถูกโจษจันมากกว่าผลลัพธ์

    ฮอฟเฟ่นไฮม์ เป็นหนึ่งในไม่กี่สโมสรบนโลกที่นำเทคโนโลยี "Footbonau" มาใช้ปรับเรื่องการสัมผัสบอล และควบคุมลูกบอลของนักเตะในตอนซ้อม

    นาเกลส์มันน์ มิได้หยุดเพียงเท่านั้น แต่เขายังสั่งนำโดรนมาบินเก็บภาพการเคลื่อนไหวของนักเตะ และ ยังมีจอภาพไซส์ยักษ์มหายักษ์ปักกลางสนามซ้อมเพื่อฉายให้เห็นการขยับตัวแบบเจาะรายคน รวมถึงทีมทั้งองคาพยพ
 
    เขายังติดตั้งกล้อง 4 ตัว โดย 2 ตัวจากหอคอยสูงตรงกลางสนาม และหลังประตูอีกแห่งละตัว แล้วยิงภาพขึ้นจอ เพื่อให้ตัวเขาพร้อมทีมงานได้เก็บข้อมูลไว้เพื่อวิเคราะห์สำหรับการใช้สู้ศึก

    ระหว่างซ้อม เขามักหยุดภาพ, ถอยหลังกลับ หรือเลื่อนไปข้างหน้า เพื่อชี้ให้เห็นจุดแข็ง-จุดอ่อนให้ผู้เล่นได้เห็นภาพอย่างชัดเจนถึงรายละเอียดที่ต้องการเน้น
 
    "ผมชอบฟุตบอลเกมรุก โจมตีคู่แข่งตั้งแต่หน้าประตูพวกเขาเอง เพราะเป้าหมายคือประตูจะอยู่ไม่ไกลเลยหากคุณได้บอลตรงพื้นที่สูงแถวๆ นั้น" นาเกลส์มันน์ เคยกล่าวไว้ถึงสไตล์ของเขา "ผมชอบวิธีที่ บียาร์เรอัล เล่น พวกเขามีวิธีการเทรนดาวรุ่งที่เจ๋งมาก ผมชอบทีมอย่าง บาร์เซโลน่า และ อาร์เซน่อล จากการทำงานของ อาร์แซน เวนเกอร์" 

    นาเกลส์มันน์ เป็นคนที่ใส่ใจในรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ เสมอ วิชาความรู้ที่เขาได้ร่ำเรียนมาในรั้วมหาลัยถูกนำมาปรับใช้ โดยเฉพาะวิทยาการสมัยใหม่ต่างๆ ผนวกกับวิทยายุทธที่เคยไปเหลาให้แหลมการันตีด้วยเกรดเอจากการอบอรมโค้ช ซึ่งเขาได้คะแนนเป็นอันดับสองรองแค่ โดเมนิโก้ เตเดสโก้ อดีตกุนซือ ชาลเก้

    กระนั้น ไม่ใช่แค่ศาสตร์ แต่ นาเกลส์มันน์ ยังมีศิลป์ด้วย 

    โดยเฉพาะอย่างยิ่ง "วาทะศิลป์" 

    ในเยอรมัน มีคำสรรพนามใช้เรียกบุรุษที่ 2 ที่แตกต่างไปจากภาษาอังกฤษที่มีแค่ "You"

    คนด็อยทช์ มี "Du" กับ "Sie"  

    "Du" สำหรับการเรียกอย่างไม่เป็นทางการ (อารมณ์ประมาณ นาย, แก, เอ็ง หรืออาจจะ มึง!)

    "Sie" สำหรับการเรียกที่เป็นทางการและสุภาพกว่า (อารมณ์ประมาณ คุณ, เธอ, ท่าน)
 
    เพื่อความสัมพันธ์อันแนบแน่นภายในทีม และโดยเฉพาะการที่อยู่ในวัยไล่เลี่ยกับลูกทีม เขายอมที่จะให้นักเตะใช้ "Du" กับเขาได้

    นาเกลส์มันน์ ยังเลือกที่จะให้ลูกทีมของเขาได้รู้สึกถึงความรับผิดชอบในทีม ด้วยการปล่อยให้โหวตกัปตันทีมเอง หรือประชุมโต๊ะกลมเพื่อร่วมกันตั้งเป้าหมายในแต่ละฤดูกาล

    เขาไม่เคยกลัวว่าจะสูญเสียความเคารพจากลูกทีมหากตีสนิทกันเกินไป เพราะเขารู้ดีว่า ผลงานของเขาคือสิ่งที่ทำให้เด็กๆ ยำเกรงเขาได้อย่างมีประสิทธิภาพที่สุด

    เมื่อเดือนมกราคม 2018 จุ๊ปป์ ไฮย์เกส กุนซือมือเก๋าของ บาเยิร์น เคยเปิดไฟเขียวให้ นาเกลส์มันน์ สามารถใช้คำระดับ "Du" กับเขาได้ ก่อนเกมที่ "เสือใต้" จะขย้ำ ฮอฟเฟ่นไฮม์ 5-2 เมื่อเดือนมกราคม 2018 เพื่อให้เกียรติ และชื่นชมโค้ชหนุ่มที่อายุน้อยกว่าเขาถึง 43 ปี 

    ความโดดเด่นของ นาเกลส์มันน์ ยังได้รับการยอมรับจากชุมชนคนวงในวงการลูกหนังเยอรมัน จนส่งผลให้เขาชนะโหวตโค้ชยอดเยี่ยมแห่งปี 2016 

    โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ราล์ฟ รังนิก อีกหนึ่งกุนซือดังในวงการลูกหนังเมืองเบียร์ที่ล็อคเป้าให้ นาเกลส์มันน์ เป็นทายาทของตนเองที่ แอร์เบ ไลป์ซิก 

    รังนิก เล็งเห็นว่า ลูกชายคนโปรดของวงการฟุตบอลเมืองเบียร์คนนี้ มีความเหมาะสมอย่างที่สุดกับงานขี่กระทิงแดง 

    เราแทบไม่ได้ยินข่าวด้านลบของเขาเลย 

    นาเกลส์มันน์ ไม่นิยมการท่องโลกโซเชี่ยล แม้เคยเปิดบัญชีทวิตเตอร์แล้วมีผู้กดติดตามถึง 42,000 ราย แต่เขาก็ตัดสินใจปิดอย่างไร้เยื่อใยหลังเวลาผ่านไปเพียงไม่นาน เพราะรู้สึกว่ามันไม่ได้ให้อะไรแก่ชีวิต  

    สิ่งที่เขาชอบมากกว่าคือการได้ละลายเวลาด้วยการอยู่กับ เวเรน่า ศรีภรรยา และ มักซิมิเลี่ยน ลูกชายตัวน้อยที่บ้านอันแสนอบอุ่น 
 
    "มันช่วยคุณได้มากเมื่อคุณกลับถึงบ้านตอนค่ำๆ แล้วคุณได้เจอกับภรรยา และลูก" นาเกลส์มันน์ ให้สัมภาษณ์ไว้กับ บิลด์ "สำหรับเวเรน่า เธอหนุนหลังผมเมอ และผมสามารถโฟกัสกับงานได้เต็มๆ"

    แม้คิวงานของเขาจะแน่นเอี้ยด แต่ นาเกลส์มันน์ ไม่เคยลืมที่จะใช้เวลาคุณภาพกับครอบครัว

    เขาอาจไม่เคยกดแชร์ในโลกโซเชี่ยล แต่เขาไม่เคยลืมการแบ่งปันในโลกแห่งความจริง
 
    นาเกลส์มันน์ คือโค้ชฟุตบอลคนแรกที่เข้าร่วมโครงการดีๆ อย่าง "Common Goal" ซึ่งมีนักเตะดังๆ จากบุนเดสลีกาอาทิ มัตส์ ฮุมเมิ่ลส์, แซร์จ นาบรี้ และ ดานี่ โอลโม่ ยินดีบริจาคค่าแรงอย่างน้อยหนึ่งเปอร์เซนต์ให้การกุศล  

    เขาไม่ได้เพิ่งทำ แต่ทำมาตั้งแต่เดือนตุลาคมปี 2017 แล้ว

    การตอบรับคำชวนของ รังนิก ในการทำงานให้ ไลป์ซิก ของ นาเกลส์มันน์ ถูกจับตาเป็นอย่างมาก 

    โค้ชรุ่นใหม่ กับทีมหน้าใหม่ คือคู่รักที่ถูกส่งมาจากสรวงสวรรค์

    ราเซนบอลล์สปอร์ต ไลป์ซิก เพิ่งก่อตั้งเมื่อปี 2009 และเริ่มนับหนึ่งในลีกลำดับห้าของประเทศเยอรมนี ก่อนสร้างความฮือฮาด้วยการเลื่อนชั้นถึงสี่ลำดับในช่วงเวลาเพียงเจ็ดปี โดยทีมจากเมืองที่มีประชากรมากสุดในเขตปกครองแห่งรัฐซัคเซิน (580,000 คน) สามารถผงาดสู่บุนเดสลีกาได้สำเร็จในปี 2016  

    ส่วน นาเกลส์มันน์ ถือครองผลงานไม่ธรรมดากับ ฮอฟเฟ่นไฮม์ โดย 116 นัดนับตั้งแต่ประเดิมคุมทีมเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2016 จนถึงนัดสุดท้ายของเขากับสโมสรในซีซั่น 2018-19 ปรากฏว่า ทีมเก็บแต้มรวมในบุนเดสลีกาได้ถึง 191 แต้ม เป็นรองเพียง บาเยิร์น มิวนิค (279) และ โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ (228) ในช่วงเวลาเดียวกัน และเหนือกว่าทีมใหญ่ๆ ทั้ง ไบเออร์ เลเวอร์คูเซ่น (182), โบรุสเซีย มึนเช่นกลัดบัค (170) และ ชาลเก้ (158) 

    21 กุมภาพันธ์ 2019 การวิวาห์อย่างเป็นทางการของ นาเกลส์มันน์ และ ไลป์ซิก ก็เกิดขึ้น โดยมีการจดทะเบียนสมรสเบื้องต้นสี่ปี 

    แล้วชีวิตหลังการแต่งงานของทั้งคู่ก็อย่างที่เห็นกัน

    ไลป์ซิก สถาปนาตัวเองกลายเป็นทีมแถวหน้าของประเทศ 

    ส่วน นาเกลส์มันน์ ฝากความทรงจำไว้มากมายกับการเดินทางบนถนนสายลูกหนังกับ ไลป์ซิก 

    เขาเก็บชัยครั้งแรกในบุนเดสลีกากับทีมใหม่อย่างมีสไตล์ด้วยการถล่ม ยูเนี่ยน เบอร์ลิน 4-0 

    เขาแข็งขืนกับยักษ์ใหญ่อย่าง บาเยิร์น ด้วยผลเสมอ 1-1 

    เขานำทัพถลุง ไมน์ซ กระจุยถึง 8-0 

    เขาสยบทีมเก่าอย่าง ฮอฟเฟ่นไฮม์ ด้วยสกอร์ 3-1 

    10 มีนาคม 2020 เขาผู้เป็นเจ้าของฉายา "เบบี้-มูรินโญ่" สามารถปราบ ท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์ส ของ "แด๊ดดี้-มูรินโญ่" ด้วยสกอร์ห่างเหินถึง 4-0 จนถูกบันทึกชื่อเป็นกุนซืออายุน้อยสุดในประวัติศาสตร์ที่ชนะในรอบน็อคเอ๊าต์ แชมเปี้ยนส์ ลีก (32 ปีกับ 321 วัน)

    13 สิงหาคม 2020 ไลป์ซิก ขวิด แอต. มาดริด 2-1 จนได้ผ่านเข้ารอบรองชนะเลิศ แชมเปี้ยนส์ ลีก เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ ขณะที่ นาเกลส์มันน์ ได้เป็นโค้ชอายุน้อยสุดในประวัติศาสตร์ที่พาทีมเข้ารอบตัดเชือกถ้วยใหญ่ยุโรปด้วยวัยแค่ 33 ปีกับ 21 วัน

    18 สิงหาคม 2020 เขาจารึกชื่อในหน้าประวัติศาสตร์ในฐานะกุนซืออายุน้อยสุดที่ได้คุมทีมในรอบตัดเชือก ยูซีแอล ด้วยวัยเพียง 33 ปีกับอีก 26 วัน โดยมีผู้เล่นถึง 63 รายใน ชปล. ปีนี้ที่แก่กว่าเขา อาทิซุปตาร์อย่าง ลิโอเนล เมสซี่ (33 ปี 55 วัน) 

    ในเกมเมื่อคืนก่อน มีนักเตะถึง 3 คนที่สามารถเรียกเขาว่าน้องได้เต็มปาก ทั้ง เอดินสัน กาวานี่ (33 ปี 186 วัน), เกย์ลอร์ นาวาส (33 ปี 247 วัน) และ ติอาโก้ ซิลวา (35 ปี 331 วัน)

    ไม่ใช่แค่เขาที่หนุ่ม แต่ทีมตัวจริงของเขา ยังได้ชื่อว่าเป็นทีมที่วัยหนุ่มแน่นที่สุดในหมู่ 8 อรหันต์ที่ผ่านสู่รอบควอเตอร์ไฟนั่ล แชมเปี้ยนส์ ลีก ด้วย ที่ตัวเลขอายุเฉลี่ย 24 ปีกับ 238 วัน

    อย่างไรก็ตาม ไลป์ซิก มีอันต้องปราชัยต่อ ปารีส แซงต์ แชร์กแม็ง ถึง 0-3 ยุติเส้นทางมหัศจรรย์ไว้ที่รอบตัดเชือก

    ถามว่า คือความล้มเหลวใช่ไหม? 

    อาจจะใช่สำหรับบางคน แต่คงไม่ใช่กับผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทุกฝ่ายกับสโมสร ไลป์ซิก 

    นี่คือการเดินทางที่มาไกลเกินคาดของทีมที่เพิ่งปรากฏตัวบนแผนที่ลูกหนังเมื่อไม่นานมานี้ 

    และสำหรับ นาเกลส์มันน์ นี่คือการเรียนรู้อีกครั้งของเขาจากคุณครูคนเดิม 

    แม้ใจจริงจะมี เป๊ป กวาร์ดิโอล่า เป็นแรงบันดาลใจ แต่เขายอมรับว่า โค้ชที่มีอิทธิพลต่อแนวคิดของเขามากที่สุดคือ ทูเคิ่ล อาจารย์เก่าที่ เอาก์บวร์ก

    "เขาเบิกทางให้ผมเข้าสู่วงการโค้ช และผมได้เรียนรู้จากเขามากมาย" นาเกลส์มันน์ เคยกล่าวไว้ 

    สี่ครั้งที่ปะทะกัน นาเกลส์มันน์ ยังหาหนทางล้างครูของเขาไม่ได้เลย

    ปราชัยไม่ใช่ล้มเหลว แต่คือความท้าทาย
                                                                       

     เปาผี

อีกหนึ่งช่องทางในการติดตามข่าวสาร
Add friend ที่ @Siamsport

Let's block ads! (Why?)

"ล้มเหลว" - Google News
August 19, 2020 at 08:41PM
https://ift.tt/3iWs6Ju

แพ้พ่ายใช่ล้มเหลว - สยามกีฬา
"ล้มเหลว" - Google News
https://ift.tt/2Kza010
Mesir News Info
Israel News info
Taiwan News Info
Vietnam News and Info
Japan News and Info Update
https://ift.tt/3c5Fzvo

Bagikan Berita Ini