ความล้มเหลวของ เกป้า อาร์ริซาบาลาก้า นายทวารค่าตัวแสนแพงของเชลซีทำให้ต้องย้อนไปดูความน่าผิดหวังในอดีตที่ผ่านมาสำหรับการย้ายทีมในเวทีพรีเมียร์ ลีก และเราก็รวบรวมมา 10 อันดับ
เมื่อวันอาทิตย์ที่ 20 กันยายน 2563 แฟนๆ ของเชลซีได้เห็นภาพที่คุ้นตาเมื่อ ซาดิโอ มาเน่ วิ่งไปฉลองประตู ส่วน เกป้า อาร์ริซาบาลาก้า แหงนมองท้องฟ้าอย่างท้อแท้หลังสร้างความผิดพลาดด้วยการพยายามจ่ายเลียดหน้าประตูให้ จอร์จินโญ่ แต่โดนมาเน่ วิ่งมาตัดบอลได้ก่อนดาวยิงชาวเซเนกัลจะตามไปซัดโล่งๆ เข้าไป ทั้งนี้มือกาวชาวสเปนตกอยู่ในความกดดันอย่างหนักหลังสร้างความผิดพลาดมาตลอด 2 ปีที่อยู่กับเชลซี และประตูดังกล่าวที่เป็นประตูย้ำชัยชนะของหงส์แดงก็เป็นความผิดพลาดส่วนตัวครั้งสำคัญอีกครั้งที่ทำให้เจ้าตัวถูกตั้งคำถามว่าควรจะได้ออกสตาร์ทให้ทีมของแฟรงค์ แลมพาร์ด หรือไม่ และแน่นอนเกป้า คือหนึ่งในการเซ็นสัญญาด้วยเงินก้อนโตที่ถือว่าทำผลงานไม่คุ้มค่าตัวเป็นอย่างยิ่งของเกาะอังกฤษ แต่นอกเหนือจากเขาแล้วจะมีใครอีก ลองไปติดตามกัน
10. มาริโอ บาโลเตลลี่ : เอซี มิลาน ไป ลิเวอร์พูล (18 ล้านปอนด์)
![]()
มีข้อสงสัยมากมายตอนที่เบรนแดน ร็อดเจอร์ส เลือกที่จะเซ็นสัญญา มาริโอ บาโลเตลลี่ มาในฐานะตัวแทนหลุยส์ ซัวเรซ ที่ย้ายไปบาร์เซโลน่าเมื่อปี 2014 ที่ 'หงส์แดง' พลาดแชมป์พรีเมียร์ ลีก ให้แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ไปอย่างฉิวเฉียด และร็อดเจอร์สเชื่อว่าแข้งชาวอิตาลีรายนี้จะสามารถระเบิดกระสุนช่วยให้ทีมคว้าแชมป์ที่รอคอยมาอย่างยาวนานได้ อย่างไรก็ตาม เดอะค็อปต้องประสบกับความผิดหวังหลังเจ้าตัวซัดไปแค่ 4 ประตูจาก 28 เกมในฤดูกาลเดียวของเขาที่แอนฟิลด์ และในปี 2015 เขาก็กลับไปเอซี มิลาน แบบยืมตัวก่อนที่จะย้ายไปร่วมทีมนีซในฝรั่งเศส
9. อฟอนโซ่ อัลเวส : ฮีเรนวีน ไป มิดเดิ้ลสโบรห์ (13 ล้านปอนด์)
![]()
ตอนโบโร่ซื้อ อฟอนโซ่ อัลเวส มาเมื่อเดือนมกราคม 2008 มีการตั้งความหวังไว้อย่างสูง เพราะเขาซัดไปถึง 37 ประตูจาก 38 เกมให้ฮีเรนวีนในฤดูกาล 2006/07 และเคยถล่มประตูไปถึง 7 เม็ดในนัดถล่มเฮราเคิลส์ 9-0 และแม้จะมีไฮไลท์เด่นๆ กับโบโร่ ซึ่งก็รวมถึง 2 ประตูที่ยิงแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด และแฮทริค ในชัยชนะเหนือแมนเชสเตอร์ ซิตี้ 8-1 แต่อัลเวสก็ถือว่าล้มเหลวอย่างสิ้นเชิง โดยในฤดูกาลเดียวที่อยู่เต็มฤดูกาลกับสโมสร เขาซัดไปแค่ 4 ประตูจาก 31 นัดในลีกและโบโร่ก็ตกชั้นไปเล่นแชมเปี้ยนชิพ
8. คอนสแตนทินอส มิโทรกลู : โอลิมเปียกอส ไป ฟูแล่ม (13 ล้านปอนด์)
![]()
มกราคม 2014 ฟูแล่มกำลังร่อแร่อยู่ในโซนตกชั้น พวกเขาจึงหันไปหา คอนสแตนทินอส มิโทรกลู เครื่องจักรสังหารประตูของกรีกเพื่อขอความช่วยเหลือ แข่งวัย 25 ในตอนนั้นซัดไป 23 ประตูจาก 26 เกมให้สโมสรและทีมชาติ เขามาถึงก่อนการเริ่มต้นยุคของเฟลิกซ์ มากาธ ที่คราเว่น คอทเทจ ปรากฏว่าด้วยการบาดเจ็บของมิโทรกลู ทำให้ไม่สามารถช่วยให้สโมสรอยู่รอดปลอดภัยได้ โดยได้ลงสนามแค่ 3 นัดในเกมลีกและฟูแล่มก็ตกชั้นในที่สุด ในที่สุดมิโทรกลูก็เลือกที่จะไม่อยู่ต่อ เขากลับไปที่โอลิมเปียกอส แบบยืมตัวในช่วงซัมเมอร์ปี 2014 ก่อนจะย้ายไปเบนฟิก้าในอีกหนึ่งปีต่อมา
7. แอนดี้ คาร์โรลล์ : นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด ไป ลิเวอร์พูล (35 ล้านปอนด์)
![]()
มกราคม 2011 ลิเวอร์พูลเซ็นสัญญากองหน้า 2 คนคือแอนดี้ คาร์โรลล์ และ หลุยส์ ซัวเรซ โดยที่เส้นทางลิเวอร์พูลของทั้งสองนั้นแตกต่างกันโดยสิ้นเชิง ในขณะที่ซัวเรซสถาปนาตัวเองในฐานะกองหน้าที่ดีที่สุดในพรีเมียร์ ลีก ก่อนที่จะย้ายไปร่วมทีมบาร์เซโลน่าเมื่อปี 2014 แต่คาร์โรลล์กลับมีช่วงเวลาที่ยากลำบากในแอนฟิลด์ โดยหลังจากสานต่อตำแหน่งหมายเลข 9 มาจากเฟร์นันโด ตอร์เรสที่ย้ายไปเชลซี ดาวเตะทีมชาติอังกฤษก็ไม่สามารถฟื้นฟอร์มที่น่าประทับใจตอนอยู่นิวคาสเซิลได้เมื่อทำไปแค่ 2 ประตูจากครึ่งฤดูกาลแรกกับสโมสร แม้ว่าดาวเตะรายนี้จะเคยแสดงให้เห็นถึงคุณภาพของเขาอยู่บ้างในฤดูกาล 2011/12 ในรอบรองชนะเลิศ เอฟเอ คัพ ที่เอาชนะเอฟเวอร์ตัน แต่ก็ไม่เพียงพอต่อการต่อชีวิตเขาในลิเวอร์พูลจนถูกส่งให้เวสต์แฮมยืมตัวในฤดูกาลต่อมา และหลังจากอยู่กับขุนค้อน 6 ปีเขาก็กลับไปนิวคาสเซิลเมื่อปี 2019
6. โรเบร์โต โซลดาโด้ : บาเลนเซีย ไป ท็อตแน่ม ฮอตสเปอร์ (29 ล้านปอนด์)
![]()
หลังจากสเปอร์สปล่อยแกเร็ธ เบล ไปเรอัล มาดริด พวกเขาก็ช็อปนักเตะครั้งใหญ่ โดยได้มาทั้ง คริสเตียน อีริคเซ่น, เอริค ลาเมล่า, เปาลินโญ่, เอเตียนน์ กาปู, วลาด ชิริเชส, นาเซอร์ ชาดลี และโรเบร์โต้ โซลดาโด้ ที่แน่นอนว่ามีทั้งพังและปัง โดยในรายของโซลดาโด้นั้นเข้าข่ายพัง ดาวยิงชาวสเปนมาถึงสเปอร์สด้วยเครดิต 30 ประตูกับบาเลนเซีย แต่ปรากฏว่าประสบปัญหาในการปรับตัวและต้องเจอกับความยากลำบากในการพยายามยิงประตูจากการเล่นโอเพ่นเพลย์ เขาย้ายออกไปเมื่อปี 2015 ไปร่วมทีมบียาร์เรอัล โดยทำไปแค่ 16 ประตูจาก 76 เกมให้ไก่เดือยทอง และเป็น 3 ประตูจากการเล่นโอเพ่นเพลย์ใน 52 เกมลีก
5. เฟร์นานโด ตอร์เรส : ลิเวอร์พูล ไป เชลซี (50 ล้านปอนด์)
![]()
ในช่วงเดียวกันกับที่คาร์โรลย้ายมาลิเวอร์พูล เฟร์นานโด ตอร์เรส ก็หันหลังให้หงส์แดงไปเซ็นสัญญากับเชลซีในราคาที่ตอนนั้นเป็นสถิติของเกาะอังกฤษคือ 50 ล้านปอนด์ โดยทิ้งผลงานที่น่าประทับใจตลอด 3 ปีครึ่งที่แอนฟิลด์คือ 81 ประตูจาก 142 นัด แต่ความเฉียบคมดังกล่าวแทบจะหายไปในช่วงเวลาที่ยากลำบากของเขากับทัพสิงโตน้ำเงินคราม อย่างไรก็ตาม ช่วงเวลาของเขาที่เชลซีก็ไม่ไร้ซึ่งจุดสูงสุดซะทีเดียว เมื่อปี 2012 ประตูในช่วงท้ายเกมก็ทำให้บาร์เซโลน่าตกรอบรองชนะเลิศ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก และโรแบร์โต้ ดิ มัตเตโอ ก็พาทีมคว้าแชมป์ยุโรปสมัยแรก นอกจากนี้ในฤดูกาล 2012/13 ตอร์เรสก็ซัดไป 22 ประตูรวมทุกรายการช่วยให้เชลซีคว้าแชมป์ยูโรป้า ลีก ก่อนที่จะทำได้อีก 11 ประตูในฤดูกาล 2013/14. และแม้ช่วงเวลาที่เชลซีจะถูกมองว่าน่าผิดหวัง แต่การมีส่วนร่วมที่สำคัญในช่วงระยะเวลาสี่ปีของเขาที่สแตมฟอร์ด บริดจ์ ทำให้ตำแหน่งของเขาไม่ต้องอยู่สูงกว่าใน
ลิสต์นี้
4. อเล็กซิส ซานเชซ : อาร์เซนอล ไป แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด (ฟรี)
![]()
ในขณะที่การย้ายไปแมนฯ ยูไนเต็ด ของ อเล็กซิส ซานเชซ เมื่อเดือนมกราคมในทางเทคนิกจะถือว่าฟรี เพราะเฮนริค มคิทาร์ยาน ได้ย้ายสวนทางไปอาร์เซนอลในสัญญาแลกตัว แต่ค่าเหนื่อยมโหฬารของดาวเตะชาวชิลีก็ทำให้การเซ็นสัญญาของเขานั้นถือเป็นหายนะที่สุดในพรีเมียร์ ลีก เลยก็ว่าได้ ซานเชซประสบความยากลำบากเป็นอย่างมากในช่วงเวลา 18 เดือนที่ไร้ซึ่งความสุขโดยสิ้นเชิงที่โอลด์ แทรฟฟอร์ด และต้องตกเป็นตัวสำรองมาโดยตลอดได้ในยุคของโชเซ่ มูรินโญ่ และ โอเล่ กุนนาร์ โซลชาร์ รวมแล้ว ซานเชซ ทำไปแค่ 5 ประตูจาก 45 เกมให้ปีศาจแดงก่อนที่จะย้ายไปร่วมทีมอินเตอร์ มิลาน ในแบบยืมตัวเมื่อฤดูกาล 2019/20 ที่นั่นเขาได้ร่วมงานกับอดีตเพื่อนร่วมทีมอย่างโรเมลู ลูกากู และ แอชลีย์ ยัง ซึ่งเจ้าตัวโชว์ฝีเท้าในมาตรฐานที่สูงขึ้นแม้ว่จะไม่เท่าระดับที่เคยทำได้ที่อาร์เซนอล นั่นก็คือ 4 ประตู 8 แอสซิสต์ เมื่อฤดูกาลที่แล้ว ก่อนที่จะย้ายไปแบบถาวรเมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา
3. แดนนี่ ดริงค์วอเตอร์ : เลสเตอร์ ซิตี้ ไป เชลซี (34.1 ล้านปอนด์)
![]()
หลังจากเอ็นโกโล่ ก็องเต้ ทำได้อย่างยอดเยี่ยมในฤดูกาลแรกของเขากับเชลซี พวกเขาก็เลยตัดสินใจที่จะให้เขาได้ร่วมงานกับแดนนี่ ดริงค์วอเตอร์ คู่หูในแดนกลางสมัยอยู่เลสเตอร์อีกครั้ง การมีก็องเต้และดริงค์วอเตอร์เป็นห้องเครื่อง ทำให้เลสเตอร์ช็อคโลกด้วยการก้าวไปคว้าแชมป์พรีเมียร์ ลีก เมื่อปี 2016 แต่โชคร้ายสำหรับเชลซี ปาฏิหาริย์ไม่เกิดขึ้นซ้ำสอง และดริงค์วอเตอร์ที่ได้รับบาดเจ็บบ่อยครั้งก็ล้มเหลวในการสถาปนาตัวเองกับเชลซี ดาวเตะที่เคยติดทีมชาติอังกฤษ 3 ครั้งได้ออกสตาร์ทแค่ 5 ครั้งในฤดูกาลแรก แต่ไม่ได้เล่นเลยแม้แต่นาทีเดียวในฤดูกาล 2018/19 และในซีซั่น 2019/20 เขาถูกส่งให้เบิร์นลีย์และแอสตัน วิลล่า ยืมตัว และแม้จะกลับมาสแตมฟอร์ด บริดจ์ ในช่วงซัมเมอร์นี้ แต่เขาไม่ได้รับการจัดสรรหมายเลขเสื้อสำหรับฤดูกาล 2020/21 เมื่อช่วงต้นเดือน เขาได้ให้สัมภาษณ์ถึงปัญหานอกสนามของเขากับ The Telegraph ในขณะเดียวกันก็เผยถึงความตั้งใจที่จะกลับสู่ฟอร์มเดิมของเขาอีกครั้ง
2. เกป้า อาร์ริซาบาลาก้า : แอธเลติก บิลเบา ไป เชลซี (72 ล้านปอนด์)
![]()
ตอนที่ลิเวอร์พูลได้ตัวอลิสซอน เบ็คเกอร์ แฟนๆ เชลซีจำนวนมากก็เชื่อว่า สโมสรของพวกเขาได้เซ็นสัญญานายทวารตัวเปลี่ยนเกมเป็นของตัวเองได้เช่นกัน นั่นก็คือเกป้า อาร์ริซาบาล้าก้า ที่ย้ายมาในราคาที่เป็นสถิติสโมสรคือ 72 ล้านปอนด์เมื่อปี 2018 อย่างไรก็ตาม ช่วงเวลาของเขาในอังกฤษกลับเต็มไปด้วยความผิดพลาดสำคัญๆ จนทำให้ต้องเสียตำแหน่งให้วิลลี่ กาบาเยโร่ ในช่วงท้ายฤดูกาล 2019/20 รวมไปถึงในนัดชิงชนะเลิศเอฟเอ คัพ แต่แฟรงค์ แลมพาร์ด ก็ให้โอกาสอีกครั้งในช่วงออกสตาร์ทฤดูกาลใหม่นี้ แต่ฟอร์มการเล่นที่ยังไม่แน่นอนก็เผยออกมาให้เห็นในนัดที่เจอกับไบรท์ตัน และ ลิเวอร์พูล ยิ่งทำให้อนาคตของเจ้าตัวไม่แน่นอนขึ้นไปอีก และแม้เจ้าตัวจะยังเด็กและมีเวลาอีกเหลือเฟือให้แก้ตัว แต่ล่าสุดเชลซีก็เซ็นสัญญาเอดูอาร์ด เมนดี้ มาจากแรนส์ และนั่นก็จะทำให้โอกาสที่จะรั้งมือ 1 ของเกป้าลดลงไปเป็นอย่างมาก
1. อังเคล ดิ มาเรีย : เรอัล มาดริด ไป แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด (59.7 ล้านปอนด์)
![]()
อังเคล ดิ มาเรีย ย้ายมาร่วมทีมแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในราคาที่เป็นสถิติของเกาะอังกฤษเมื่อปี 2014 หลังจากที่เพิ่งช่วยเรอัล มาดริด คว้าแชมป์ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก แต่ปรากฏว่าฟอร์มอันยอดเยี่ยมของเขาหล่นหายในช่วงฤดูกาลแรกของเขาที่อังกฤษ ส่วนนึงก็เป็นเพราะโดนหลุยส์ ฟาน กัล จับเล่นผิดตำแหน่ง ดิ มาเรีย ต้องจบเส้นทางกับปีศาจแดงตอนที่เขาไปดึงเสื้อผู้ตัดสิน ไมเคิล โอลิเวอร์ ระหว่างเกมที่พ่ายแพ้ให้อาร์เซนอลในศึกเอฟเอ คัพ รอบ 6 จนโดนใบแดง โดยในช่วงซัมเมอร์ 2015 เขาก็ย้ายไปร่วมทีมปารีส แซงต์-แชร์กแมง ในราคาตามข่าว 44 ล้านปอนด์ ถือว่าขาดทุนโดยสิ้นเชิงสำหรับแมนฯ ยูไนเต็ด
"ล้มเหลว" - Google News
September 27, 2020 at 12:31PM
https://ift.tt/3cE56wL
เสียของ! 10 แข้งค่าตัวแพง พรีเมียร์ ลีก ที่ล้มเหลวไม่เป็นท่าในการย้ายทีม - บทความฟุตบอลต่างประเทศ - SMMSPORT
"ล้มเหลว" - Google News
https://ift.tt/2Kza010
Mesir News Info
Israel News info
Taiwan News Info
Vietnam News and Info
Japan News and Info Update
https://ift.tt/3c5Fzvo
Bagikan Berita Ini
0 Response to "เสียของ! 10 แข้งค่าตัวแพง พรีเมียร์ ลีก ที่ล้มเหลวไม่เป็นท่าในการย้ายทีม - บทความฟุตบอลต่างประเทศ - SMMSPORT"
Post a Comment