Samsung Galaxy Watch 3 เป็นนาฬิกาที่จะพาผู้ใช้ไปให้สุดทางของเทคโนโลยีอุปกรณ์สวมใส่ ในเพราะในซีรี่ย์หลักตัวนี้ของ Samsung จะไม่มีการกั๊ก มีเทคโนโลยีอะไรดีก็ใส่เข้ามาหมด
Galaxy Watch3 ถูกวางเป็น Hi-End ของสมาร์ทวอทช์ Samsung ครับ ใช้หน้าจอ Super AMOLED Full Color กระจกจอ Corning Gorilla Glass DX มีการเปิดตัวมาสองขนาดคือ 1.2 นิ้ว (41มิลลิเมตร) และ 1.4 นิ้ว(45มิลลิเมตร) สีสันหน้าจอคือสุดยอดเกรดคุณภาพ จอสวยและคมชัดที่สุด 360×360 บนจอแค่ขนาดนิ้วกว่าๆ
ตัวเรือนสวยงามครับ มีคุณภาพงานประกอบสูงมาก สวมใส่แล้วให้ความรู้สึกพรีเมี่ยม เพราะเกรดหน้าตาระดับนี้มันไปได้หมด จะใส่เล่นหรือใส่ไปงานแบบเป็นทางการ
ตัวเรือนสแตนเลส สายหนังแท้ สเปคจัดเต็ม Exynos 9110 Dual-Core 1.15GHz RAM 1GB ROM 8GB มีหน่วยประมวลผลที่ไว้มากขึ้น พร้อมแรมและรอมสำหรับการจัดเก็บไฟล์และติดตั้งแอพพลิเคชั่น
ที่ต้องมีสเปคสูง และระบุชิพเซ็ตชุดประมวลผลเหมือนเครื่องสมาร์ทโฟนเพราะ Galaxy Watch Series มันมีระบบที่สามารถติดตั้งแอพพลิเคชั่นและทำงานได้เหมือนกับสมาร์ทโฟนเครื่องหนึ่งบนข้อมือเราเลยละครับ ด้วยการรันระบบ Wearable Tizen OS 5.5 ที่ Samsung พัฒนาขึ้นมาไกล มีแอพพลิเคชั่นมากมายให้ใช้งานกันได้บนตัวนาฬิกา มีทั้งแอพทั้งเกม รวมถึงเป็นระบบที่มีหน้า Watch Face เยอะและสวยงามมากที่สุดในบรรดาสมาร์ทวอทช์ทั้งมวลแล้วครับ
สามารถสร้าง Watch Face ของตัวเองได้ด้วยนะครับ โดยการอ้างอิงสีสันจากสิ่งต่างๆ รอบตัว หรือการแต่งกายในแต่ละวัน ถ่ายภาพโทนสีจากสิ่งที่ต้องการอ้างอิง แล้วเลือกใช้แพทเทิร์นที่ชอบได้เลย ^^
ตัวเรือนหรูหรา มีสีสันที่เข้ากันได้กับทั้งเพศชายเพศหญิง งานประกอบเกรดสูง กันน้ำ IP68 ใส่อาบน้ำได้เลย และทนน้ำลึกสูงสุดที่ 5 ATM เป็นระดับใส่ลงว่ายน้ำไตรกีฬาสบายๆ เล่นกีฬาทางน้ำไม่ต้องถอดครับ
ความทนทานต่อแรงสั่นสะเทือน อึดทนได้มาตรฐานการทดสอบทางทหาร MIL-STD 810G ทั้งอึดทั้งทน ใส่ลุยป่าฝ่าดงคนน่าจะตายก่อนนาฬิกาพัง อึดมากทั้งการกระทบกระแทกและการกันน้ำกันฝน
ใส่การเชื่อมต่อไร้สายมาครบครันที่สุด Bluetooth 5.0, Wi-Fi (b/g/n), NFC, GPS/GLONASS/Beidou/Galileo รวมถึงมีรุ่น LTE ที่สามารถเชื่อมต่อ eSim รับสัญญาณมือถือและอินเตอร์เน็ตเครือข่าย 4G ได้ด้วยตัวเองอีกด้วย
เซนเซอร์ใส่มันมาทุกอย่าง Accelerometer ตรวจจับการเคลื่อนที่และความเร็ว, Barometer ตัววัดแรงกันอากาศบอกค่าพิกัดความสูงต่ำ, Gyro ตรวจจับแกนหมุน, Light
Sensor ตรวจจับวัดแสง, Optical Heart Rate Sensor ตรวจจับชีพจรหัวใจ , และ Electrical Hear Rate Sensor หรือตัววัดคลื่นไฟฟ้าหัวใจ (ฟังก์ชั่นด้านสุขภาพ จะเปิดรองรับการใช้งานในประเทศที่อนุญาตแล้วเท่านั้น ประเทศไทยรอการอนุมัติจากหน่วยงานรัฐ ก็พร้อมจะอัพเดทให้ใช้งานได้ทันที)
เรียกว่าใส่มาครบไม่ว่าจะเคลื่อนไหวท่าไหน เดินทางยังไง นั่งหรือเดินหรือวิ่งหรือนอน เจ้า Galaxy Watch3 รู้ได้หมด และเป็นรุ่นที่เลือกใช้เกรดเซนเซอร์ระดับสูงทุกตัวเลยด้วยครับ เพราะว่าเป็นรุ่นพรีเมี่ยม
ด้วยความไฮเทคโนโลยีของ Galaxy Watch3 ทำให้สมาร์ทวอทช์เรือนนี้ของ Samsung เป็นอุปกรณ์ตัวเดียวที่มีความสามารถในการตรวจจับเยอะมาก ความดันโลหิต, การวัดคลื่นไฟฟ้าหัวใจ (ECG) และตรวจออกซิเจนในเลือด (SpO 2) ซึ่งเป็นความสามารถที่แอดวานส์มากขึ้นไปอีกขั้น แต่ยังต้องรอการอนุญาตใช้งานจากหน่วยงานในประเทศซะก่อน รวมถึงการตรวจจับอัตราการเต้นหัวใจ คุณภาพในการนอนหลับ และความเครียดของผู้สวมใส่ ที่วันนี้สามารถใช้งานได้แล้วใน Watch3
ในด้านความคุณสมบัติความสามารถ มีการเซนเซอร์และตัวรับสัญญาณมาครบเลย และยังรองรับการชาร์จไร้สายด้วยครับ โดยภายในกล่องจะมีแท่นชาร์จแบบไร้สายมาให้ มีขนาดเล็กพกง่ายครับตัวชาร์จของ Watch3 และสามารถใช้ระบบชาร์จ “Wireless PowerShare” ของสมาร์ทโฟน Samsung ในการชาร์จแบตให้กับตัวนาฬิกายามฉุกเฉินได้ด้วยเช่นกัน
แบตเตอรี่ภายในของ Watch มีมาให้ในขนาด 247 mAh สำหรับรุ่นขนาด 41มิลลิเมตร และ 340 mAh สำหรับรุ่นขนาด 45มิลลิเมตร ใช้งานได้แบบทั่วไปได้ประมาณสามวันครับ ถ้าใช้งานหนักๆ สำหรับเป็นเครื่องจับการออกกำลังกายก็จะได้ประมาณหนึ่งวัน อยู่ที่กิจกรรมออกกำลังกายนั้นเปิดจับด้วยเซนเซอร์อะไรบ้าง
หน้าการใช้งานของ Galaxy Watch3 ก็จะใช้การสัมผัสหน้าจอและปุ่มควบคุมสองปุ่มนั้นคือปุ่มย้อนกลับและปุ่มโฮม โดยจะใช้เป็นปุ่มเรียกรายการแอพพลิเคชั่นขึ้นมาใช้งานด้วยครับ
ในหน้าแรกของนาฬิกา จะเป็นหน้าปัดที่เราเลือกนำมาใช้งาน และสไลด์ซ้ายเพื่อเลื่อนไปหน้าวิตเจ็ตถัดไปได้ หรือจะสไลด์ไปขวาเพื่อดูรายการแจ้งเตือนต่างๆ และสไลด์หน้าจอลงเพื่อเข้าหน้าการตั้งค่าด่วน เราสามารถใช้ Bezel หรือวงแหวนรอบหน้าปัดหมุนเพื่อเลื่อนตัวเลือกได้ด้วยนะครับ
ปุ่มล่างกดค้างเพื่อเปิดและปิดการทำงานของตัวนาฬิกา สำหรับปุ่มด้านบนถ้ากดค้างไว้จะเป็นการเรียกระบบ Samsung Pay หรือระบบจ่ายเงินของ Samsung เจ้าตัวนี้รองรับด้วย
กดพร่อมกันสองปุ่มเป็นการเซฟภาพหน้าจอตัวนาฬิกาได้ด้วยนะ ^^
ด้วยการเชื่อมต่อไร้สายที่ตัว Watch3 รองรับ ไม่ว่าจะเป็น Bluetooth, Wifi, หรือแม้กระทั่ง eSim LTE ทำให้มันสามารถเข้าถึงการใช้งานต่างๆ ได้ด้วยตัวมันเอง ไม่ว่าจะเป็นการโทรออกรับสาย ทั้งเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟน หรือไม่ได้เชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟนแต่เป็นรุ่นรองรับ eSim
การเข้าถึงสโตร์เพื่อดาวน์โหลดแอพพลิเคชั่นมาใช้งานด้วยตัวนาฬิกาเอง
การเชื่อมต่อสัญญาณบลูทูธ เพื่อใช้งานกับหูฟัง เล่นเพลงได้จากพื้นที่จัดเก็บภายในตัว เราสามารถโยนไฟล์เสียงของเราจากตัวสมาร์ทโฟนมาจัดเก็บไว้ในนาฬิกาได้นะครับ รวมถึงรูปภาพก็ได้เช่นกัน มันมีโปรแกรมในการเปิดไฟล์เหล่านั้นได้เหมือนสมาร์ทโฟน
แต่ยังไงก็ตาม การใช้งานของ Samsung Galaxy Watch 3 จะเริ่มต้นทำงานได้ ต้องเชื่อมต่อกับแอพพลิเคชั่น Galaxy Wearable บนสมาร์ทโฟนซะก่อนนะครับ ซึ่งรองรับทุกยี่ห้อที่ใช้ระบบ Android 5.0 ขึ้นไป RAM อย่างน้อย 1.5GB และสำหรับ iOS ต้องเป็น iPhone 5 ที่ใช้ iOS9.0 ขึ้นไป
ดาวน์โหลด Galaxy Wearable จากสโตร์ของระบบ แล้วเชื่อมต่อใช้งานได้เลยครับ โดยตัวแอพจะเป็นศูนย์กลางการตั้งค่าต่างๆ พร้อมกับเป็นตัวอัพเดทซอฟท์แวร์ให้กับอุปกรณ์ Galaxy Watch
เราสามารถกำหนดการแจ้งเตือน รูปแบบการแสดงผล และการหน้าตาการใช้งานต่างๆ ของ Watch 3 ได้ในแอพพลิเคชั่นนี้ทั้งหมด
ความสามารถสูง เป็นผู้ช่วยในการใช้ชีวิต
สิ่งที่เป็นหน้าที่สำคัญของอุปกรณ์อย่างสมาร์ทวอทช์ คือ “ความสะดวก” ผมว่าอันนี้สำคัญ มันต้องช่วยเหลือเราได้ในการใช้ชีวิต ซึ่งทุกวันนี้ชีวิตครึ่งหนึ่งเราผูกติดอยู่กับสมาร์ทโฟน และเจ้า Samsung Galaxy Watch 3 จะเข้ามาช่วยให้ครึ่งหนึ่งของชีวิตเราในส่วนนั้น สะดวกยิ่งขึ้นกว่าเดิมมาก
Samsung Galaxy Watch 3 สามารถรับการแจ้งเตือนที่ติดต่อเข้ามายังสมาร์ทโฟนของเราได้ทั้งหมด โดยสามารถแสดงผลเป็นภาษาไทยได้สมบูรณ์ และด้วยหน้าจอที่ใหญ่ ทำให้ผมสามารถอ่านข้อความหรือเห็นข้อมูลการติดต่อเข้ามาได้ชัดเจน
โดยระบบของมันนอกจากการแจ้งเตือนและการรับรู้ได้บนข้อมือของเราได้แล้วนั้น มันยังมีความสามารถในการจัดการงานติดต่อสื่อสาร ด้วยการตอบกลับด้วยข้อความด่วน หรือจะพิมพ์ตอบไปโดยการทัชพิมพ์บนหน้าปัดนาฬิกาได้เลยละครับ ไม่ต้องจับสมาร์ทโฟน แต่ก็จะพิมพ์ยากหน่อย ^^มันเอาไว้แค่อ่านก็จะเหมาะสมกว่า
รวมถึงการคุยสนทนา รับสาย วางสาย อันนี้ใช้บ่อยเลย เพราะบางครั้งมือถือลืมไว้อีกห้องหรืออยู่ในรถ ไม่ต้องไปหยิบ รับสายคุยผ่านนาฬิกาได้เลย แม้ไม่ได้เชื่อมต่อหูฟัง แต่ลำโพงกับไมค์ของตัวนาฬิกาก็เอาอยู่ครับ คุยสนทนาในที่เสียงดังไม่มาก ไม่มีปัญหา แอบรู้สึกว่าไฮเทคแบบไม่อยากให้ใครมองยังไงไม่รู้ด้วย 555 ย้อนแย้งในตัว
การใส่ Galaxy Watch อยู่กับตัว ทำให้ผมถือจับสมาร์ทโฟนน้อยลงกว่าครึ่ง บางวันแทบไม่จับมือถือเลยถ้าไม่เล่นเกมหรือเล่นโซเชี่ยล เพราะเราตรวจเช็คอีเมลและแชตที่ติดต่อแจ้งเขามาได้แค่พลิกข้อมือขึ้นมาอ่าน โดยเฉพาะถ้าเราใช้รุ่นที่รองรับการเชื่อมต่อ 4G เราอาจจะสามารถใช้งานมันโดยไม่มีสมาร์ทโฟนอยู่ข้างตัวได้เลยละครับ
และช่วยให้ผมไม่พลาดสายการติดต่อเข้ามาด้วยนะครับ เพราะบางทีไม่ได้ยินเสียงโทรศัพท์ แต่เจ้านี้ก็สั่นเตือนอยู่ตรงข้อมือ
เมื่อติดตั้งแอพพลิเคชั่นได้เหมือนสมาร์มโฟน ฉะนั้นความสามารถของตัวนาฬิกา ก็จะขึ้นอยู่กับแอพที่เราเลือกมาใช้งานครับ มีแอพตัวดังหลายตัวที่มีในสโตร์ของ Galaxy Watch
มีแอพช่วยในการใช้งานได้ดีอย่างแอพรีโมทกล้องที่จะใช้นาฬิกาเป็นชัตเตอร์กล้องถ่ายภาพ หรือแอพดู Youtube บนนาฬิกา เอามาแก้ขัดแก้เหงาบางช่วงบางตอน ^^
มีแอพที่ให้เราใช้นาฬิกาเป็นอุปกรณ์ PPT เพื่อเป็นรีโมทสำหรับการนำเสนอพรีเซนเตชั่นให้กับ PC ได้ด้วยนะครับ
สำหรับผู้ใช้ที่เป็นผู้หญิง ทาง Samsung มีออกแบบแอพที่ช่วยเตือนรอบเดือนใส่เข้ามาให้ด้วยนะครับ แจ้งเตือนกันลืมจะได้เตรียมตัว
การตอบสนองของ Watch 3 ทำงานได้รวดเร็วกว่าสมาร์ทวอทช์ที่ใช้งานกับสมาร์ทโฟน Android แบรนด์อื่นค่อนข้างชัดครับ น่าจะเร็วที่สุดแล้วสำหรับการตอบสนอง
อีกอย่างคือหน้าตาการใช้งานของมันค่อนข้างสวย ทาง Samsung ออกแบบ Widget มาทันสมัย ไอคอนสวยงาม แม้แต่การเล่นเพลงผ่านแอพบนสมาร์ทโฟนยังสวยงาม แสดงปกเพลงได้ครบถ้วน
ไม่ใช่แค่เป็นผู้ช่วยในการติดต่อสื่อสารและความบันเทิง มันยังเป็นผู้ช่วยที่ดูแลสุขภาพของเราได้ด้วยครับ ไม่ว่าจะเป็นการจตรวจจับก้าวเดิน การเคลื่อนไหว แจ้งเตือนการนั่งนานเกินไป หรือแม้แต่กิจกรรมออกกำลังกายเล็กๆ ที่มันจะตรวจจับได้ทันทีว่าเรากำลังทำอะไร
ตกดึกก็สามารถตรวจจับการนอนของเราได้ด้วย โดยตรวจจับละเอียดแบ่งแยกเกรดการนอนของเราได้ถึง 4 ระดับเลยทีเดียว
ตรวจจับการชีพจรหัวใจ แล้วนำไปวิเคราะห์ความเครียด ถ้าตรวจพบระดับความเครียดของร่างกายที่สูงเกินไป ทาง Samsung ก็ออกแบบวิธีการผ่อนคลาย ด้วยการกำหนดทำสมาธิลมหายใจ เป็นไกด์ให้เราทำตามเพื่อคลายความเครียดของร่างกายเราลงได้ครับ
ในรุ่นนี้ยังสามารถตรวจจับชีพจรระหว่างวัน ตรวจจับความเครียดด้วยอัลกอริทึ่มได้ รวมถึงตรวจจับ ความดันโลหิต, การวัดคลื่นไฟฟ้าหัวใจ (ECG) และตรวจออกซิเจนในเลือด (SpO 2) แต่ต้องรอการอัพเดทและการอนุญาตจากหน่วยงานรัฐในประเทศไทยเราซะก่อนนะครับ เพราะมันเป็นเรื่องของสุขภาพที่สำคัญ
มีระบบเพื่อความปลอดภัยของผู้ใช้ที่สามารถตั้งค่าไว้ได้ในแอพพลิเคชั่น Galaxy Wearable เช่นการแจ้ง SOS ไปยังหมายเลขที่เรากำหนดไว้ทันทีโดยการกดปุ่มโฮมสามครั้งเพื่อขอความช่วยเหลือ และสามารถตรวจจับการล้มที่ไม่ปกติของผู้สวมใส่ได้จากเซนเซอร์ และส่ง SOS แจ้งไปยังปลายทางได้ทันทีด้วยเช่นกัน
ใช้นาฬิกาและสมาร์ทโฟน ค้นหากันและกันได้ด้วยนะครับ โดยการส่งเสียงและระบุตำแหน่ง
ปรับตัวตามการใช้ชีวิตของเราได้ด้วย มีโหมดสำหรับโรงภาพยนตร์ ที่จะปิดเสียง ปิดไฟ ไม่ให้รบกวนคนอื่นขณะรับชมภาพยนตร์ในโรงหนัง
มีโหมดป้องกันหน้าจอจากการว่ายน้ำหรือตัวเครื่องเปียก จะปิดการสัมผัสหน้าจอเพื่อป้องกันความผิดพลาดจากหน้าจอที่โดนน้ำ
มีฟังก์ชั่นการขับดันน้ำทิ้ง พร้อมคำแนะนำหลังการโดนน้ำให้ด้วยครับ
สิ่งเหล่านี้คือผู้ช่วยในการใช้ชีวิตในแต่ละวัน ทั้งแบบอัตโนมัติและอัตโนมือ เช้าจรดเย็นเราจะได้ประโยชน์จาก Galaxy Watch3 มากมายเลยครับ ยังไม่นับรวมความเป็นเครื่องประดับสวยๆ ให้กับผู้ใส่ ส่วนตัวผมว่ามันสวยและดูแพงจริงๆ ครับ งานออกแบบ Samsung ได้รับการยอมรับว่าทำมาได้ดีทุกรุ่นของสมาร์ทวอทช์
การทำงานเพื่อการออกกำลังกาย
ขออนุญาตออกตัวกันตรงๆ สำหรับผู้รีวิวไม่ใช่สายออกกำลังกายสักเท่าไหร่นะครับ แต่จะเล่าให้ฟังว่ามันทำอะไรได้บ้างในฐานะคนรู้เรื่องไอทีมากกว่าเรื่องการดูแลสุขภาพ ^^
สิ่งที่ทำให้ Galaxy Watch มีความสามารถในด้านการออกกำลังกายสูงสุด ไม่ได้อยู่ที่ตัวนาฬิกาเพียงเท่านั้น เพราะไม้ตายของ Samsung อยู่ที่แอพพลิเคชั่นตัวเก่งด้านสุขภาพ ที่ชื่อว่า ” Samsung Health ”
ถ้าแอพ Galaxy Wearable มีไว้สำหรับการจัดการตัวอุปกรณ์ แอพพลิเคชั่น Samsung Health ก็มีไว้สำหรับการดูแลสุขภาพของผู้สวมใส่นั้นแหละครับ
ใน Samsung Health จะเป็นแอพที่รวมรวมสถิติการเคลื่อนไหวร่างกาย ตรวจจับสถิติการนอน การออกกำลังกาย ระดับการเต้นของหัวใจ การตรวจจับทุกอย่างที่กระทำผ่าน Galaxy Watch 3 จะถูกบันทึกเอาไว้ในแอพพลิเคชั่นนี้ทั้งหมดครับ โดยจะซิงก์เข้ากับโปรไฟล์ของเราที่สามารถสมัครใช้งานได้ผ่านตัวแอพพลิเคชั่นโดยตรง และจะทำการเก็บบันทึกเอาไว้ให้เรา เป็นบริการฟรีจาก Samsung ไม่คิดค่าบริการ สามารถใช้งานฟังก์ชั่นต่างๆ ของแอพ Samsung Health ได้เต็มที่เลยครับ ซึ่งผมจะบอกว่าบริการภายใน Samsung Health มีมูลค่ามาก เพราะโปรแกรมการออกกำลัง และการดูแลสุขภาพ ที่ออกแบบมาจากสถาบันชื่อดังระดับโลก มีให้ใช้งานกันอยู่ในแอพตัวนี้ มากกว่า 120 โปรแกรม ฟรี!
การบันทึกที่ย้อนหลังดูได้เป็นรายวัน การจัดเก็บสถิติการออกกำลังกายที่ผ่านมา เป็นกิจกรรมที่สามารถแชร์หากันระหว่างเพื่อผู้ใช้แอพได้เพื่อความสนุกที่มากขึ้น
ทาง Samsung ออกแบบอัลกอริทึมตรวจจับการออกกำลังที่น่าจะครบที่สุดในโลกอยู่ที่นี่แล้วครับ กิจกรรมของผู้สวมใส่จะเป็นกีฬาหรือการออกกำลังกายอะไร เชื่อว่ามีมาให้ครบ โดยแต่ในละโหมด จะมีข้อมูลและการเก็บสถิติที่สำคัญต่อกิจกรรมนั้นๆ เอาไว้ให้พร้อมใช้ และมีการปรับปรุงอัพเดทให้ทันสมัย เพื่อให้เข้ากับความสามารถของอุปกรณ์อย่างต่อเนื่อง และเขาก็พัฒนามาไกลมากแล้วด้วยครับ
ยิ่งกว่าการออกกำลังเป็นครั้งคราว ในบริการของ Samsung Health ยังมีแผนการพัฒนาร่างกายอย่างต่อเนื่องมาให้เราด้วยครับ โปรแกรมพวกนี้แหละที่มีมูลค่ามหาศาลปกติราคาแพง แต่ในแอพนี้มีให้เลือกใช้เพียบครับ
จะเทรนต์ตัวเองเพื่อการวิ่งมาราธอน หรือจะเทรนด์ตัวเองเพื่อฟื้นฟูร่างกาย โปรแกรมลดความอ้วน มีการกำหนดแผนเหมือนเป็นโค๊ชให้เราแบบรายวัน
แผนดูแลสุขภาพ จะมาพร้อมกับคำอธิบายและภาพประกอบ โดยจะเป็น เสียงภาษาไทย ด้วยนะครับ ยอดเยี่ยมมาก เราทำตามกิจกรรมในแต่ละวัน โดยตัวโปรแกรมจะทำหน้าที่เป็นโค๊ช และตัวนาฬิกาจะทำหน้าที่ในการจัดเก็บสถิติและการเคลื่อนไหว โดยการทำงานระหว่างตัวแอพและนาฬิกาจะซิงก์การทำงานร่วมกันโดยอัตโนมัติเลยครับ
ถ้าอุปกรณ์ทีวีในบ้านเรา รองรับฟังก์ชั่น Smart View ก็สามารถส่งภาพจากหน้าจอมือถือไปขึ้นแสดงบนจอทีวีได้จากในแอพด้วยนะครับ ^^ ออกกำลังกายในแต่ละวันด้วยแผนโปรแกรมเหล่านีั้ได้โดยไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่ม อันนี้คือความคุ้มค่าของ Galaxy Watch เต็มๆ
ยังมีโปรแกรมเสริมสร้างด้านสุขภาพจิตและสมาธิ ด้วยการกำหนดลมหายใจ การสร้างบรรยากาศที่ผ่อนคลายด้วยเสียงสภาพแวดล้อมและดนตรีบำบัด ทุกอย่างใช้งานกันให้เต็มที่ เพราะมีอยู่ใน Samsung Health แอพเดียบครบครับ
สรุปท้ายรีวิว
Samsung Galaxy Watch 3 เป็นสมาร์ทวอทช์ที่มาในเกรดระดับพรีเมี่ยม ท็อปสุดทั้งการผลิตและสเปคของตัวนาฬิกา เซนเซอร์ครบ ตรวจจับสุขภาพได้เยอะที่สุด ชีพจร, ความเครียด, ความดันโลหิต, การวัดคลื่นไฟฟ้าหัวใจ (ECG) และตรวจออกซิเจนในเลือด (บางบริการใช้ได้ในบางประเทศเท่านั้น) การเชื่อมต่อไร้สายมีพร้อมทั้ง Bluetooth, Wifi และ LTE มีความสามารถในตัวเองสูงที่สุดในตลาดแล้วครับ และการทำงานที่ใช้ระบบ Tizen มีความใกล้เคียงสมาร์ทโฟน สามารถติดตั้งแอพพลิเคชั่นและมีพื้นที่จัดเก็บไฟล์ในตัว
ตัววัสดุเกรดสูง กันน้ำระดับ 5ATM และทนทานผ่านมาตรฐานทดสอบทางการทหาร
ในด้านระบบใช้งานสนุก เพราะมีแอพพลิเคชั่นเสริมที่ติดตั้งเพิ่มได้จาก Galaxy Store และมีหน้า Watch Face ที่เยอะมากที่สุดในตลาด
มีแอพจัดการอุปกรณ์ที่ดีมากอย่าง Galaxy Wearable ซึ่งเป็นแอพศูนย์กลางของอุปกรณ์ Wearable ทุกตัวของ Samsung และแอพดูแลสุขภาพระดับพรีเมี่ยม Samsung Health ที่ภายในใส่บริการดูแลสุขภาพให้ใช้ได้ฟรีไว้เยอะมากที่สุด รองรับการออกกำลังกายครบถ้วนทุกกิจกรรมที่นิยมเล่นกัน
สวยงาม ทนทาน ครอบคลุมทั้งการเป็นผู้ช่วยสมาร์ทโฟน และการเป็นผู้ช่วยออกกำลัง และเป็นผู้ช่วยดูแลสุขภาพ ที่มีความครบถ้วนมากที่สุกในตลาดขณะนี้ครับ
ราคาจำหน่ายของ Galaxy Watch ทั้ง 5 รุ่น
Galaxy Watch3 41mm
- Bluetooth ราคา 14,900 บาท
- Bluetooth + LTE ราคา 17,900 บาท
Galaxy Watch3 45mm
- Bluetooth ราคา 15,900 บาท
- Bluetooth + LTE ราคา 18,900 บาท
ทั้งสองรุ่นมีให้เลือก 3 สี Mystic Bronze, Mystic Silver, Mystic Black
และรุ่นพิเศษ Galaxy Watch3 45mm Titanium Edition ราคา 23,900 บาท มีเฉพาะสี Mystic Black
"มันใช้งานได้" - Google News
September 17, 2020 at 03:08AM
https://ift.tt/3iI9BZu
รีวิว Samsung Galaxy Watch 3 วอทช์ตัวท็อป เซนเซอร์คร ... - APPDISQUS - แอพดิสคัส
"มันใช้งานได้" - Google News
https://ift.tt/357dMYK
Mesir News Info
Israel News info
Taiwan News Info
Vietnam News and Info
Japan News and Info Update
https://ift.tt/3c5Fzvo
Bagikan Berita Ini
0 Response to "รีวิว Samsung Galaxy Watch 3 วอทช์ตัวท็อป เซนเซอร์คร ... - APPDISQUS - แอพดิสคัส"
Post a Comment